คดีหัวขาดฮอกไกโด
คดีหัวขาดฮอกไกโด เราได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคดีนี้ ผ่านทางเรื่องเล่าจากรายการ คืนพุธมุดผ้าห่ม ที่คุณต้นกล้า มิ่งบุญ ฮาตะ เป็นคนดำเนินรายการ สำหรับใครที่ยังไม่เคยฟัง กด link เข้าไปฟังได้เลย ช่วงนาทีที่ 9
คดีหัวขาดฮอกไกโด
เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฏาคม 2566 ได้เกิดคดีสุดช็อคของญี่ปุ่น เมื่อมีคนพบศพในโรงแรม Let’s Susukino ในเขตสุสุกิโนะ เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด โดยสภาพศพเป็นชาย
ไร้ศีรษะ เนื้อตัวล่อนจ้อน อยู่ภายในห้องอาบน้ำชั้น 2 ของโรงแรมที่เราเรียกว่าเป็นแบบ’Love Hotel’ หรือ โรงแรมม่านรูดนั่นแหละ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 ก.ค. 2566) ตามเวลาในประเทศไทย
ในวันที่เกิดเหตุนั้น ไม่พบสิ่งของใด ๆ ที่ยืนยันได้ว่าศพนั้นคือใคร ตำรวจเชื่อว่าหัวของศพที่หายไป ต้องถูกอีกคนที่มาพร้อมเขานั้น นำออกไปแน่นอน เพราะตอนที่ออกจากห้องมีเพียงหนึ่งคนที่เดินออกมา
จากการที่นำศพไปตรวจสอบนั้น พบว่าเค้าตายเพราะถูกแทง เสียเลือดมาก เหตุจูงใจในตอนนั้น ตำรวจคาดไว้หลายอย่าง มีทั้งเรื่องชู้สาว การฆ่าชิงทรัพย์ หลังจากพบศพเป็นเวลา 2 วัน
ถึงได้ทราบว่า เจ้าของร่างไร้หัวนั่นคือ นายฮิโตริ อุระ อายุ 62 ปี เนื่องมาจากภรรยามาแจ้งความว่าสามีหายตัวไป ตำรวจได้ออกตามหาตัวฆาตกร จนเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2566
ได้ขอเข้าไปค้นบ้านของนายทามุระ โอซามุ วัย 59 ปี เป็นแพทย์ประจำในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พบศีรษะของนายฮิโรชิ ซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางของบ้านหลังนี้ โดยระว่า
ผู้ต้องสงสัยในการก่อคดีคือ นางสาวทามูระ รุนะ ลูกสาวของบ้านหลังนี้ โดยได้จับคุมคุณแม่นางทามุระ ฮิโรโกะกับคุณที่เป็นคุณหมอในข้อหาช่วยกันซ่อนเร้น อำพรางศพ
เรื่องเล่าจากแม่บ้านญี่ปุ่น
จาก เพจญี่ปุ่นจ๋าอีแม่ต้องรอด แอดมินอ่านและสรุปให้ฟังนะมิตรรักนักอ่านทุกคน แม่บ้านญี่ปุ่นท่านนี้ได้เล่าไว้ว่า หลังจากเกิดเหตุเค้าก็ได้ทำการเช็คข่าว พ่อของฆาตกรเป็นคุณหมอ ที่ช่วยปกปิดอำพราง
อีกทั้งเป็นคนขับรถไปรับ – ส่งลูกสาวในวันก่อเหตุ หลังจากพบหัวในบ้าน ทั้ง 3 คนถูกจับ คุณหมอเป็นคนจิดใจดี เคยอยู่แผนกอายุรกรรมมาก่อน แต่แกกลัวเลือดขอผลันตัวเองไปอยู่แผนกจิตเวช และตัวลูกสาวนั้น
เป็นเด็กมีปัญหา เก็บตัว ไม่สามารถไปเรียนร่วมกับคนอื่นที่โรงเรียนได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป ระหว่างนั้นในญี่ปุ่นพากันวิจารณ์ว่าครอบครัวคุณหมอต้องเป็นพวกโรคจิตแน่ ๆ ที่ฆ่าคนด้วยวิธีแบบนี้
โดยล่าสุด ข่าวเปิดเผยออกมาว่า ผู้ตายเป็นลุงแนวชอบแต่งหญิง ไปเจอลูกสาวคุณหมอ ที่ทำงานแนวเซ็กซี่ จึงเกิดอยากใกล้ชิด มักจะเข้าหาน้องตลอดเวลา มีทั้งการข่มขู่ คุกคาม ข่มขืน จนมีเรื่องขึ้นศาลมาแล้ว
แต่ผู้ตายยังตามน้องอย่างไม่หยุดหย่อน และพยายามจะข่มขื่นน้องอีก ในที่สุดลุงฮิโตริ อุระ ก็กลายเป็นศพไม่มีหัวในโรงแรมนั่นเอง โดยมีข้อมูลออกมาหลายข่าว โดยเฉพาะบอกว่า
คุณพ่อนั่นเป็นคนสอนลูกสาวเองเลยว่าจะต้องฆ่าแบบไหน ต้องตัดชิ้นส่วนใดบ้าง ครอบครัวนี้วางแผนมาเป็นอย่างดี มีทั้งการเตรียมการ การเตรียมอุปกรณ์ ลูกสาวฝึกวิธีการฆ่ามาอย่างดี
วิธีการทำความสะอาดที่ทำได้ดีมาก หารอยนิ้วมือไม่เจอเลยทีเดียว (ตามข่าวบอกว่าน้องเป็นคนคลั่งความสะอาดมาก) เหตุผลว่าทำไม คุณพ่อที่เป็นคุณหมอถึงไม่เป็นคนลงมือ
อย่างที่บอกไว้ตอนต้น พ่อกลัวเลือดและตัวน้องเป็นผู้ป่วยทางจิต กรณีที่ฆ่าคนตาย อาจจะใช้ข้อนี้ ช่วยในการลดโทษได้นั่นเอง แอดมินสรุปมาให้ได้ใจความประมาณนี้ ใครอยากอ่านฉบับเต็ม ด้านบนแปะไว้แล้ว
ตามที่แอดมินอ่านเรื่องราวต่าง ๆ และอ่านดูในคอมเม้นต์ มากกว่า 90 เปอร์เซ็น สงสารครอบครัวของน้องที่เป็นฆาตกร เพราะเป็นผู้ถูกกระทำก่อน หนีไปพึ่งตำรวจก็แล้ว แจ้งความ
ขึ้นศาลก็แล้ว ยังถูกคุกคามอยู่ดี เลยเลือกขอจบเรื่องนี้ด้วยชีวิต คดีความยังไม่จบ สำหรับใครที่สนใจ อาจจะต้องหาอ่านเอาในทวิตเตอร์ มันเป็นเรื่องราวที่หดหู่มากเลยทีเดียวสำหรับเรา
ฮอกไกโด
เรามาทำความรู้จักกับ จังหวัดฮอกไกโดกันก่อน จริง ๆ แล้ว คนญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า ฮกไกโด เดิมทีเรียกว่า เอโซะ เป็นจังหวัดและเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น เกาะใหญ่สุดคือ ฮนชู นั่นเอง
ตามเรื่องเล่า ฮอกไกโดนั้นมีชนเผ่าพื้นเมืองชาวไอนุอาศัยอยู่ และเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ซามูไรที่แพ้สงครามจากเกาะฮนชูได้หนีมาตั้งรกรากอยู่บนเกาะนี้ ทำให้ชาวไอนุถูกกลืนชนชาติไป
นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเรา ๆ นิยมไปฮอกไกโด เพราะเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็น 4 – 6 เดือนเชียว หิมะท่วมมาก ฤดูหนาวอุณหภูมิ -20 ถึง 5 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนอุณหภูมิ 15 – 30 องศาเซลเซียส
ด้วยความเป็นเมืองที่มีธรรมชาติสมบูรณ์ วิวทิวทัศน์สวยงาม ไม่น่าแปลกใจหรอก ที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเอง และประเทศต่าง ๆ จะเดินทางไปเยี่ยมเยียนเมืองแห่งนี้
การเดินทางมาฮอกไกโดจากเมืองไทยไปไม่อยากเลย บินตรงไปได้เลย ลงสนามบินชินชิโตเซะ ตั้งห่างจากเมืองซัปโปโรแค่ 45 กิโลเมตร เราจะเดินทางออกจากสนามบินด้วยรถไฟ JR ใช้เวลา 30 นาทีหน่อย ๆ
หรือจะโดยสารรถบัสแบบชิล ๆ นั่งมองเมืองรับชมความงามไปเรื่อย ๆ กินเวลาเพียง 1 ชั่วโมงนิด ๆ เอง ถ้าอยากไปจังหวัดอื่น ๆ นอกจากฮอกไกโด สามารถนั่งชินคันเซ็นไปโตเกียว อาโอโมริ ได้อย่างสบาย ๆ
- สถานที่ท่องเที่ยว
- ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area), เมือง Otaru เป็นท่าเรือเล็ก ๆ ที่มีความคึกคักเป็นอย่างมาก มีร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์เพื่อบอกเล่าความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ รวมถึงมีการติดตั้งโคมไฟแบบโบราณไปตามถนนที่ทอดยาวขนานไปกับคลองโอตารุ ทำให้มีความโรแมนติกสุด ๆ และที่สำคัญ ไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด
- ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku), เมือง Hakodate หรือ ป้อมดาว 5 แฉก ป้อมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีสุดท้ายของยุคเอโดะเพื่อป้องกันการคุกคามของมหาอำนาจตะวันตก และยังมีหอคอยโงเรียวกาคุที่สูง 90 เมตร สำหรับชมวิวรอบ ๆ ป้อมแบบพาโนรามา ด้านล่างหอคอย มีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และนิทรรศการเกี่ยวกับการจัดตั้งป้อมแห่งนี้อีกด้วยแหละ
- ทุ่งดอกไม้ ฟูราโน่ (Furano Flower Field), เมือง Furano ดอกลาเวนเดอร์(Lavender) นิยมปลูกในภูมิภาคฮอกไกโดมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ทุ่งดอกไม้ขนาดต่างๆ มีอยู่ทั่วเมืองฟูราโน่(Furano) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนให้มาชมความงดงามของทุ่งดอกไม้แห่งนี้
- สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo), เมือง Asahiyama เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆของอกไกโด ที่นักท่องเที่ยวต้องมาชม เหตุที่สวนสัตว์แห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์สุดของสวนสัตว์นี้คือการชมขบวนเพนกวินเดินพาเรดมาตามทางหิมะที่สามารถชมได้อย่างใกล้ชิดไม่มีอะไรมากั้นเลย
- Sapporo Beer Museum, เมือง Sapporo คอเบียร์แบบแอดมินต้องไม่พลาดเมืองนี้ Supporo Beer นั่นเอง เบียร์ยี่ห้อนี้เป็นเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศไทย
ถึงแม้คดีที่เราเอามาเล่าให้ฟังมันจะดูหลอนและน่ากลัว แต่มันเป็นเรื่องของจิตใจของคนนั้น ๆ รวมไปถึงเหตุผลที่ต่างกัน อย่าไปเหมารวมว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในทุก ๆ วัน ที่ญี่ปุ่นเชียว
บ้านเมืองของเค้ายังน่าเดินทางไปท่องเที่ยวอยู่เหมือนเดิม ใครอยากไปเยี่ยมชมเมืองฮอกไกโด ไปตามสถานที่ ที่แอดมินได้แนะนำเอาไว้ด้านบนได้เลยนะ เค้าว่ากันว่า เป็นที่เที่ยวสุดฮิตของฮอกไกโดทีเดียว