คุกขี้ไก่ ตึกแดง ที่เที่ยวจันทบุรี
วันนี้อุมาจะพาไปทัวร์ คุก รู้จักกันรึป่าว คุกขี้ไก่ แต่ก่อนจะไปทัวร์ ฝากบอกทุกคนที่อ่านว่า ช่วงนี้เข้าหน้าผลไม้แล้ว ทางจันทบุรีทุเรียนกำลังออกวางแผงเลย ใครอยากกินทุเรียนสวนจันท์ แวะมาได้เลย ชะนี หมอนทอง กระดุม พวงมณี
เวลาจะซื้อทุเรียน อย่าซื้อลูกเขียว ๆ นะ เอาแบบแห้ง ๆ หนามห่าง ๆ แงะพลูออกมาเลยจะดีมาก ถ้าไม่ผ่าให้ อย่าไปซื้อ มีหลายร้าานให้เลือก เพื่อน ๆ ที่กรุงเทพชอบบ่น มาซื้อทุเรียนจันท์แล้วเจอของเน่า ของยังไม่สุก เสียหาย
หมดกันไปเป็นพัน ๆ บาท จะเอากลับมาคืน คงไม่คุ้มกับค่าน้ำมันในการเดินทาง ทางที่ดี ซื้อแล้วให้เค้าผ่าเนื้อดู ดีที่สุด พ่อค้า แม่ค้า ดี ๆ เสียหายเพราะคนเห็นแก่ตัว แบบนี้แหละ จากเรื่องทุเรียน ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดจันทบุรีแล้ว
ครั้งนี้อุมาจะมาไปเที่ยวเมืองโบราณ เมืองแห่งประวัติศาสตร์ของจันทบุรีกัน สถานที่ท่องเที่ยวนี้ อยู่ในอำเภอแหลมสิงห์ อำเภอที่ไม่ได้มีดีแค่ชายหาด นอกจากจะมีชายหาดแหลมสิงห์ ที่เป็นชายหาดทรายสีน้ำตาลอมแดงทรายผสม
ดินเลนแล้ว ที่อำเภอแหลมสิงห์ ยังมีจุดพักผ่อน และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้เราได้เรียนรู้อีกด้วย ที่มาของชื่อ หาดแหลมสิงห์ นั่นมาจาก เขาแหลมสิงห์ ที่มีก้อนหินรูปร่างเหมือนสิงห์ กำลังนอนหมอบ แล้วยื่นตัวลงไปในทะเลนั่นเอง
และนอกจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย ในสมัย ร.ศ. 112 ตอนที่ฝรั่งเศสกำลังจะมายึดเมืองจันทบุรี ฝรั่งเศสนำเรือมาปิดรอบปากอ่าวของเมืองจันทบุรีไว้ และได้สร้าง ตึกแดง ซึ่งตึกนี้มีสีแดงสด
ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับตัวหาดแหลมสิงห์ เป็นที่บัญชาการรบเสียด้วย เอาจริง ๆ นะ พอพูดถึงเรื่องประวัติศาสตร์ จะอินหน่อย ๆ อย่าดราม่ากันนะ มันผ่า่นมาแล้ว ต่อกันกับตึกแดง ฝรั่งเศสสร้างตึกไว้บัญชาการรบกับเรายังไม่พอ ยังสร้างคุก
ไว้ขังคนไทยไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของฝรั่งเศสอีกด้วย คุกนี้คนที่นี่เรียกว่า คุกขี้ไก่ เราจะมาพูดถึง ประวัติของคุกขี้ไก่ กันก่อน ซึ่งคุกนี้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ก่อนถึง
ท่าเทียบเรือ 1 กิโลเมตร ถูกสร้างเมื่อ ร.ศ. 112 หรือปี พ.ศ. 2436 จากประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ทำให้เราได้รู้ว่า นี่คือ กรณีพิพาทกับฝรั่งเศส ในเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง โดยทหารฝรั่งเศสได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยมีกลุ่มหนึ่ง
ตั้งหลักปักฐานอยู่ทางปากแม่น้ำแหลมสิงห์ แล้วจึงสร้าง คุกขี้ไก่ ขึ้นมา เพื่อกักขังคนไทยที่ไม่โอเคกับฝรั่งเศส ใครก็ตามที่ไม่ยอมอยู่ภายใต้อำนาจของฝรั่งเศส คนผู้นั้นจะถูกนำตัวไปไว้ที่คุกแห่งนี้ ในส่วนของตัวคุก มีรูปร่างลักษณะ
เป็นหอขนาดเล็ก รูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ผนังก่อด้วยอิฐมอญสูงประมาณ 7 เมตร ด้านบนจะมีช่องระบายอากาศ หลังคาโปร่ง เป็นเรื่องเล่า ที่เล่าตกทอดกันมาแต่ยุคนั้น เขาเล่าว่า สถานที่แห่งนี้ เป็นคุกที่ทรมานนักโทษโดยจะให้
คนไทย คนมอญ คนจีนที่ต่อต้าน จะถูกจับมาอยู่ในคุกที่แออัด ลักษณะของ คุกขี้ไก่ ไม่ได้ใหญ่โตเลย ความกว้างของด้านแต่ละด้าน ประมาณ 4 .40 เมตร ลองไปคำนวณดูกันนะว่า พื้นที่จะมีขนาดแค่ไหนกัน คิดสภาพ
เหมือนเรานั่งรถเมล์รอบเช้า ที่แน่นมาก กระดิกกระเดี้ยวแทบจะไม่ได้ ด้านบนสุดของคุก เขาใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ เวลาไก่มันถ่ายมูลลงมา มูลพวกนี้จะไปอยู่ที่ไหนได้ นอกเสียจากบนหัวของนักโทษ ซึ่งมันเป็นอะไรที่คิดภาพตามแล้วมัน
หดหู่ใจไม่น้อย ไหนจะร้อน อากาศถ่ายเทไม่สะดวก คนในคุกเบียดกันไม่พอ ไก่ที่อยู่ข้างบนถ่ายมูลใส่หัวตลอดทั้งวัน ไหนจะเชื้อโรคจากไก่ ตัวไรอีก ถ้าโดนไรไก่กัดนะ จะคันไปทั่วตัวทีเดียว คนที่แพ้ จะมีตุ่มแดงขึ้น แสบ ๆ คัน ๆ
กันไป จริง ๆ แล้วถ้าถามเราว่าความทรมานของ คุกขี้ไก่ ไม่ได้อยู่ที่ความเจ็บปวด ของร่างกายหรืออะไรหรอก แต่มันเป็นความรู้สึกที่เลวร้ายต่อสภาพจิตใจมากกว่า ถูกต่างชาติจับมาใส่ในคุก บนแผ่นดินไทย ทั้ง ๆ ที่ไม่อยาก
ตกเป็นทาสของคนต่างชาติ นั่นคือเรื่องผิด ที่มหาอำนาจในสมัยนั้น สร้างบาดแผลไว้ให้ หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก คงจะได้กลิ่นขี้ไก่ติดตัวไปนานเลย ปัจจุบันในส่วนด้านข้างของ คุกขี้ไก่ เป็นสวนสาธารณะเล็ก ๆ มีที่ให้จอดรถ
น้ำตกกระทิง อุทยาแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ข้างค่ายลูกเสือจันทบุรี
สภาพของคุกในปัจจุบัน เริ่มเอียงและทรุดโทรมไปตามเวลา ถ้าเรามองขึ้นไปด้านบนของตัวคุก จะไม่มีอะไรปิดกันด้านบน ซึ่งต่างจากสมัยที่ใช้เป็นคุกลิบลับ ซึ่งตัวหลังคาเดิมเป็นเครื่องไม้มุงกระเบื้อง ทรงพีระมิด ประตูเข้าออกมีด้านเดียว
แต่บางคนว่าสถานที่แห่งนี้ เดิมเป็นป้อมปืน หรือเป็นป้อมตรวจตรา ชาวบ้านจึงเรียกว่า ป้อมฝรั่งเศส หลังจากที่ฝรั่งเศสถอนกำลังออกจากจังหวัดจันทบุรีจึงร้างไป และในปัจจุบัน คุกขี้ไก่ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่เรารู้สึกหดหู่มาก
ถ้าเดจาวูกลับไป คงมองเห็นภาพในอดีต ที่เศร้าใจมากทีเดียว ทำให้เราได้รู้ว่า กว่าเราจะมีประเทศ มีแผ่นดินเป็นของตัวเอง โดยที่ไม่มีใครมารุกราน บรรพบุรุษของเราเหนื่อยยาก ตรากตรำมากมายขนาดไหน เดี๋ยวจะพาไปชมอีก 1 ที่
แหล่งเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ของจังหวัดจันทบุรี เป็นประวัติที่ทำให้เราได้รับรู้ว่า เราอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสถึง 11 ปี สถานที่นี้คือ ตึกแดง ร.ศ. 112 มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน กว่าจะมาเป็นเมืองจันทบุรี บรรพบุรุษของเรา
ต้องแลกกับเลือดเนื้อ ดินแดน และทรัพย์สิน จนกว่าจะมาเป็นแผ่นดินไทย ที่ตึกแดงแห่งนี้ จะมีคุณลุงเล็กเป็นมัคคุเทศก์ ที่คอยบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของตึกแดง ให้กับนักท่องเที่ยวได้ฟัง คุณลุงเล็กเข้ามาเก็บกวาด ทำความสะอาด
มาคอยดูแล มาซ่อมแซมสิ่งของต่าง ๆ ให้พอมีสภาพใช้งานได้ ตึกแดงเป็นอาคารที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2436 ซึ่งครั้งนั้น ฝรั่งเศส กำลังจะยึดครองญวนและเขมร และหาเรื่องที่จะมารุกรานประเทศไทยด้วย ตอนนั้นฝรั่งเศส
อ้างเรื่องดินแดนอาณาจักรลาวเกือบทั้งหมด 12 แควน ซึ่งจะถือโอกาส เข้ายึดและทำสงครามกับไทย รัชกาลที่ 5 ท่านทรงดำเนินการคานอำนาจ ประมาณว่า ไปหาประเทศพันธมิตรที่เป็นมหาอำนาจ อย่างเช่น รัสเซียเยอรมัน
รวมไปถึงพระองค์ยังเสด็จไปเยือนประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย พระองค์ทรงพระราชกรณียกิจ และได้สร้างความประทับใจให้แก่ฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก ในศึกครั้งนั้นประเทศไทยต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับฝรั่งเศสอีกด้วย ซึ่งประเทศฝรั่งเศส
ได้ยึดจันทบุรีไว้แล้ว จากวิกฤตการณ์ตรงนั้น ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียอาณาจักรลาวเกือบทั้งหมด ให้แก่ฝรั่งเศส ปัจจุบัน คุกขี้ไก่ และ ตึกแดง ถูกบูรณะและเคยเป็นห้องสมุด ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ของอำเภอแหลมสิงห์ และเลิกใช้ไป
จนกระทั่งตึกแดงเปิดให้เข้าชม วันนี้มาเที่ยวทิพย์กับอุมากันก่อนที่จะได้ออกทริปจริง ๆ ละกัน กับสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของจันทบุรี ถ้าใครผ่านไปผ่านมาแวะชม คุกขี้ไก่ และตึกแดงได้นะ
ตอนนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไปแล้ว เป็นจุดเช็คอินของจังหวัดจันทบุรีอีกด้วย เพื่อน ๆ คนไหนที่ได้อ่านบทความของเราแล้วมาเที่ยว คุณจะรู้ว่าที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และยิ่งใหญ่อีกที่หนึ่งของคนไทย
รักษาสุขภาพกันด้วยนะทุกคน กินร้อน รักษาระยะห่าง ล้างมือ ใส่แมส แล้วเจอกันใหม่ มาลุ้นกันว่าอุมาจะพาไปไหน (ไม่รู้) กับชิลล์แก๊งค์ อีกนะ ฝากเพจ ออกเที่ยว-ก่อนที่จะยืนเยี่ยวไม่ไหว ของเราด้วย ช่วงนี้เที่ยวทิพย์กันไปก่อนนะ
แผนที่คุกขี้ไก่
See you soon.