ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเล ครั้งที่ 1
โรงเรียนยอแซฟวิทยา ได้จัด ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเล ขึ้น กิจกรรมหลัก ๆ ประกอบไปด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่ การรับความรู้ ณ สำนักงาน
พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Space Inspirium), กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ทำฐานกิจกรรมชีวทางทะเล
และ ดำน้ำศึกษาแนวปะการังน้ำตื้น ณ โรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีวิทยากรและพี่ ๆ คอยให้ความรู้เด็กเป็นฐาน ๆ ไป สนุกและได้รับความรู้ไปพร้อม ๆ กัน
ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเล ครั้งที่ 1
วันนี้จะมารีวิวเกี่ยวกับการไปค่ายวิทย์ฯทางทะเล ที่โรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา จังหวัดชลบุรีให้กับพ่อ แม่ ผู้ปกครองได้ฟังกัน
ในการจัดค่ายวิทย์ฯทางทะเลครั้งนี้ของโรงเรียนยอแซฟวิทยา จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยได้เลือกพาเด็ก ๆ ไปรับความรู้เกี่ยวกับโลกทางทะเล
ณ โรงเรียนพูลตาหลวงวิทยา วันที่ 11 – 12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยทางโรงเรียนได้จัดพี่ ๆ วิทยากรให้ความรู้กับเด็กนักเรียนไว้เป็นฐาน
อยู่ภายในอาคาร ชั้น 1 และชั้น 2 บรรยากาศการเรียนรู้อบอุ่นและเป็นกันเองมาก เด็ก ๆ โรงเรียนยอแซฟวิทยาของเรา ตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้น
ช่วยในระหว่างเข้าฐาน ครูสังเกตเห็ตสีหน้าที่มีความตื่นตัว อย่างเรียนรู้ อยากร่วมกิจกรรมอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เด็ก ๆ เดินทางมาถึงเลยทีเดียว
เด็ก ๆ จะถูกแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มจะต้องเรียนเดินไปตามฐานต่าง ๆ 10 ฐานด้วยกัน โดยจะมีเสียงนกหวีดคอยเป่าให้สัญญาณในการเปลี่ยนฐานด้วย
กิจกรรม STEM 10 ฐาน
- สัตว์มีกระดูกสันหลังในทะเล
- พี่วิทยากรจะยกตัวอย่างเกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ ในทะเลที่มีกระดูกสันหลัง พร้อมสัตว์ที่อยู่ในโหลดองและสัตว์สตัฟฟ์ อย่างเช่น ม้าน้ำ, ปลาปักเป้า และเต่ามะเฟือง
- ปะการัง
- พี่วิทยากรอธิบายเกี่ยวกับเรื่องปะการังแบ่งออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่
- ปะการังกิ่งก้าน เช่น ปะการังเขากวาง
- ปะการังกลียบซ้อน เช่น ปะการังผักกาด
- ปะการังแผ่น เช่น ปะการังเขากวางรูปโต๊ะ
- ปะการังแท่ง เช่น ปะการังตุ่ม
- ปะการังเคลือบ เช่น ปะการังกาแลกซี่
- ปะการังก้อน เช่น ปะการังสมอง
- ปะการังเดี่ยว เช่น ปะการังเห็ด
- พี่วิทยากรอธิบายเกี่ยวกับเรื่องปะการังแบ่งออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่
- หอย
- พี่วิทยากรสอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับประเภทของหอย ลักษณะของหอย ซึ่งหอยนั้นเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ในไฟลัมมอลลัสกา (Mollusca) อาศัยอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ มีจุดเด่น คือ มีเปลือกที่เป็นแคลเซียมแข็ง ใช้ห่อหุ้มลำตัว
- หอยเปลือกเดียว (เด็ก ๆ เรียกหอยฝาเดียว) ได้แก่ หอยงวงช้าง, หอยเป๋าฮือ และหอยนมสาว เป็นต้น
- หอยเปลือกคู่ (เด็ก ๆ เรียกหอยฝาคู่) ได้แก่ หอยแมลงภู่, หอยแคลง, หอยนางรมณ์ เป็นต้น
- พี่วิทยากรสอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับประเภทของหอย ลักษณะของหอย ซึ่งหอยนั้นเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ในไฟลัมมอลลัสกา (Mollusca) อาศัยอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ มีจุดเด่น คือ มีเปลือกที่เป็นแคลเซียมแข็ง ใช้ห่อหุ้มลำตัว
- แพลงค์ตอน
- ฐานนี้เด็ก ๆ จะได้ส่องกล้องจุลทรรศน์ เพื่อดูลัษณะของแพลงค์ตอนพืชและแพลงค์ตอนสัตว์ โดยในกล้องจุลทรรศน์ได้มีตัวอย่างของแพลงค์ตอนทั้ง 2 ชนิดไว้ให้เด็ก ๆ ได้ส่องและได้สังเกตสิ่งที่มองเห็น ว่าแต่ละคนส่องออกมาแล้ว มองเห็นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
- ผ่าตัดหมึก
- หมึก คือ สัตว์น้ำเค็มที่ไม่มีกระดูกสันหลัง พี่วิทยากรจะอธิบายเกี่ยวกับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของหมึก อย่างเช่น ตรงไหนคือปากของหมึก, หมึกสืบพันธุ์อย่างไร, หมึกมีดวงตาสีอะไร เป็นต้น โดยเด็ก ๆ จะได้เห็นอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของหมึกสด ๆ อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
- หอยจิ๋ว
- ฐานนี้ใช้ประสาทตากันหน่อย โดยหอยจิ๋วที่ว่านั้น มีลักษณะจิ๋วจริง ๆ นะท่านผู้ชม ถ้าคนสายตาสั้นหรือสายตายาวนั้น คงไม่สามารถหาได้โดยไม่ใช่แว่นขยายเป็นแน่แท้ เด็ก ๆ จะได้หาหอยจิ๋วจากกองทรายที่พี่วิทยากรได้จัดเตรียมไว้ให้ ฐานนี้ได้ยินเสียงเด็ก ๆ ขอความช่วยเหลือจากพี่วิทยากรแทบทุกกลุ่ม เพราะบางทีก็ได้หอยตัวอื่นมา บางทีก็ได้ก้อนหินมา
- สัตว์ลำตัวมีหนาม
- พี่วิทยากรบอกว่า เนื่องจากผิวหนังที่มีหนาม จึงเรียกว่าสัตว์ผิวหนาม เป็นสัตว์ทะเลทั้งหมด ได้แก่ ดาวทะเล, ดาวเปราะ, หอยเม่น, ปลิงทะเล และพลับพลึงทะเล โดยพี่วิทยากรจะให้เด็ก ๆ ดูอวัยวะของดาวทะเล
- กุ้ง กั้ง ปู /ผ่าตัดกุ้ง
- พี่วิทยากรให้เด็ก ๆ ได้ดูแยกเพศของปู ตัวไหนตัวผู้ ตัวไหนตัวเมีย ได้รู้จักชื่อของปู กุ้ง กั้ง ว่าเด็ก ๆ รู้จักอะไรบ้าง
- ฉลาม
- ฐานนี้เด็ก ๆ ตื่นเต้นสุดจัดเลย เพราะได้เห็นปลาฉลาม เพียงแต่น้องหลามนั้นได้สิ้นชีพไปแล้ว พี่วิทยากรจะอธิบายถึงฉลามตัวที่ถูกผ่าอยู่ ให้ดูถึงอวัยวะภายใน ฉลามมีฟันเป็นแบบไหน ระบบหายใจของฉลาม ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย เกิดขึ้นที่เหงือก โดยตัวอย่างของฉลามที่วิทยากรนำมาให้ดูนั่น เป็นฉลามกบและฉลามหูดำ
- DIY
- เด็ก ๆ ชอบกิจกรรมในฐานนี้มาก เพราะพี่วิทยากรจะนำก้อนหินมาให้เด็ก ๆ เพ้นสี เป็นภาพทะเลตามจินตนาการ ถือเป็นของที่ระลึกจากทาง ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเล ณ โรงเรียนพลูตาหลวงวิทยาได้เป็นอย่างดี
ดำน้ำศึกษาแนวปะการังน้ำตื้น
เป็นกิจกรรมที่เด็ก ๆ รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ในช่วงเช้าคณะวิทยากรจะมาให้ความรู้เกี่ยวการดำน้ำ อย่างเช่นอุปกรณ์การดำน้ำและวิธีการใช้งาน
พี่วิทยาการแนะนำวิธีการใช้หน้ากากดำน้ำและท่อหายใจ (snorkel) เพื่อช่วยให้หายใจใต้น้ำสะดวกและมองเห็นใต้น้ำได้ชัดเจนมากขึ้น
วิธีการหายใจด้วยท่อหายใจ เมื่อเราทำการดำน้ำลงไปนั้น ต้องหายใจเข้า – ออกทางปากเท่านั้น เนื่องจากตัวแว่นออกแบบมา ครอบบริเวณจมูก
ดังนั้นเราจะไม่สามารถใช้จมูกในการหายใจได้เลย วิธีการใส่ชุดชูชีพ ชุดชูชีพจะมีตัวล็อกอยู่หลายจุด ให้ล็อกทุกจุด และรูดสายให้กระชับกับตัว
ไม่ว่าจะเป็นช่วงบริเวณหน้าอก หรือช่วงบริเวณรัดขาด้านล่าง หากไม่แน่นชุดชูชีพจะลอยขึ้นมารั้งบริเวณคอ ทำให้ไม่สะดวกต่อการดำน้ำนั่นเอง
หลังจากนั้นเด็ก ๆ จะเดินทางไปสถานที่ฝึกดำน้ำตื้น บริเวณวิหารหลวงพ่อดำ วัดช่องแสมสาร จังหวัดชลบุรี ครูฝึกจะให้เด็กแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม
แต่ละกลุ่มจะมีครูฝึกคอยดูแล 1 คน สอนเด็กนักเรียนอีกครั้ง ในเรื่องการใช้อุปกรณ์ดำน้ำ และตรวจดูความกระชับของชุดชูชีพ
เด็กจะเริ่มเรียนการดำน้ำ การใช้ท่อหายใจ พี่วิทยากรจะให้จับเชือก ฝึกก้มหน้าลอยตัว แล้วเมื่อเวลาน้ำเข้าแว่นตา ให้นอนหงายเกาะเชือก
แล้วค่อย ๆ เปิดแว่นเอาน้ำออก แล้วเวลาที่ดำน้ำไป เกิดเหตุน้ำเข้าท่อหายใจ วิทยากรบอกให้เราเป่าลงแรง ๆ เพื่อไล่น้ำให้ออกจากท่อนั่นเอง
กิจกรรม ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเล ในครั้งนี้ ทำให้เด็ก ๆ ได้รับความรู้เกี่ยวกับโลกของทะเล สัตว์ทะเลต่าง ๆ มากมาย
ระบบนิเวศของทะเล และเรียนรู้การปลูกปะการัง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ โดยเมื่อปี พ.ศ. 2558 นักเรียนของโรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา
ได้คว้ารางวัลที่ 1 เวทีวิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมระดับโรงเรียน สสวท. เป็นงานวิจัยในการประดิษฐ์อุปกรณ์การขยายพันธุ์ปะการับเขากวาง
และสามารถปลูกปะการังแบบใดก็ได้ โดยใช้ปะการังที่มีความยาวเพียง 2 เซนติเมตร นำมาปลูกได้และมีอัตราการรอดชีวิตเกือบ 100% เลย สุดยอดมาก ๆ