ว่ายน้ำ

ท่าว่ายน้ำ ท่าว่ายน้ำฟรีสไตล์ ท่าว่ายน้ำผีเสื้อ ท่าว่ายน้ำกรรเชียง ท่ากบ [7]

ข้อแนะนำของการว่ายน้ำในแต่ละท่า ท่าว่ายน้ำ ฟรีสไตล์ ท่าผีเสื้อ ท่าน้ำกรรเชียง ท่ากบ เพื่อปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพบกันอีกแล้วกับบทความของครูปุ้ม วันนี้ครูปุ้ม จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ท่าว่ายน้ำ ทั้ง 4 ท่า ให้มากขึ้นกว่าเดิมนะคะ พร้อมทั้งแนะนำเกล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของในแต่ละท่า

เพื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละคน (แนะนำให้ใช้สำหรับคนที่สามารถว่ายน้ำได้คล่องแล้ว) รวมไปถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อร่างกาย กล้ามเนื้อมัดต่างๆด้วย

1. ท่าฟรีสไตล์  – Freestyle Swimming

นั้นจะใช้ลักษณะของแขนทั้งสองข้างดึงน้ำสลับกันต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเรื่องแขนซ้าย พอถึงแขนขวาพลิกหน้าหายใจ ขึ้นทางด้านข้าง ก้มหน้าลง วางแขนขวาหมุนแขนซ้าย วนทำไปแบบนี้เรื่อยๆค่ะ บางคนอาจจะหายใจทุกแขนขวาหรือบางคนหายใจด้านซ้ายหรือหายใจได้ทั้งซ้ายและขวา

โดยผู้ฝึกส่วนใหญ่ ที่ไม่ใช่นักกีฬาเราก็จะว่ายแบบแขนตรง ๆ ไม่ได้งอแขน แต่ถ้าเป็นคนที่เป็นนักกีฬาหรืออดีตนักกีฬาเขาก็จะว่ายอีกแบบหนึ่งโดยการงอตรงข้อศอก แล้วก็ยกแขนไปทางด้านหน้า ส่วนขาของ ท่าฟรีสไตล์ นั้นก็คือการเตะขาขึ้นลงสลับกันซ้ายและขวา

ท่าว่ายน้ำ ท่าฟรีสไตล์

โดยที่ส่วนใหญ่แล้ว ท่าว่ายน้ำ จะออกแรงมาจากสะโพก แต่บางคนที่ออกแรงจากสะโพกไม่ได้ ก็สามารถให้ใช้หัวเข่าเป็นจุดงอเพื่อส่งแรงได้ แต่ก็ไม่ควรที่จะงอเข่ามากจนเกินไปนะคะ สะบัดหลังเท้า ขึ้นลง ขึ้นลงด้วยนะคะ ว่ายเรื่อยๆไม่ต้องรีบ ถ้ารีบเวลาหายใจจะเก็บลมหายใจได้น้อย ให้ทำอย่างพอดี ไม่ต้องรีบเกินไป หรือช้าเกินไป

ยิ่งถ้าเรารีบที่จะดึงแขน รีบที่จะหายใจ จะเก็บอากาศ เก็บก๊าซออกซิเจนเข้าไปในร่างกายได้น้อย หรืออาจจะสำลักน้ำได้ ครูปุ้ม มีคลิปวีดีโอ อยู่ด้านล่างมาฝากนะคะเป็นการว่ายท่าฟรีสไตล์ ในแบบของ เด็กที่มาเรียนกับครูปุ้ม หรืออาจจะฝึกเองก็ได้

แล้วก็อีกคลิปหนึ่ง เป็นการว่ายน้ำในแบบฉบับของครูปุ้ม ก็จะเห็นถึงความแตกต่างในเรื่องของแขน ในส่วนที่เป็นการพลิกหน้าหายใจ ที่ครูเคยบอกว่า บางคนหายใจได้เฉพาะทางด้านขวา เพราะคน คนนั้นถนัดขวา สำหรับคนที่ถนัดซ้าย ก็จะสามารถหายใจในฝังแขนซ้าย

แต่สำหรับบางคน ก็จะฝึกให้พลิกหน้าหายใจได้ทั้ง 2 ฝั่ง ซ้าย และ ขวา สลับกัน โดยดึงแขน 3 ครั้ง หายใจ 1 ครั้ง ดึงแขนอีก 3 ครั้ง หายใจ 1 ครั้ง ก็จะเป็นการสลับหายใจทั้งด้านซ้ายและขวาค่ะ กระชับส่วนไหนบ้าง ส่วนไหนได้แรง ได้ใช้งานบ้าง มีดังนี้เลยค่ะ หัวไหล่ แขน หน้าท้อง ปีก ( Lats muscles ) ก้น

สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัง ระยะเวลาที่จะต้องว่ายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยในการเผาผลาญที่ได้ 30 นาที  แคลอรี่จะโดยใช้งานไป 400 – 450 แคลอรี่ (ในเรื่องของ การเผาผลาญ ครูอ่านเจอมาจากบทความนะคะ เลยนำมาเพิ่มเติมให้ทราบกัน)

2. ท่ากรรเชียง – Backstroke 

การ ว่ายกรรเชียง ก็คือเป็นการกลับด้านของ ท่าฟรีสไตล์ เป็นการนอนหงาย เตะขาสลับขึ้นลงเหมือนขาท่าฟรีสไตล์เลย อธิบายให้เห็นภาพ ก็คือเป็นการว่ายท่าฟรีสไตล์ พลิกกลับอีกด้านหนึ่ง เป็นการนอนหงาย ยกพุง ตามองขึ้นไปบนท้องฟ้าเลยนะคะ

อย่า งอ ตัว เพราะถ้างอตัวเมื่อไหร่ น้ำจะเข้าหน้าเราได้ หายใจเข้าทางปาก หายใจออกทางจมูก หมุนแขนซ้ายและขวาสลับกัน ดึงแขนเข้ามาสุดที่ตรงต้นขานะคะ ส่วนเท้าเราก็จะขึ้นลงตลอด แต่ไม่ต้องยกเท้าขึ้นมาสูงมาก เอาแค่พอปลายนิ้วสะบัดโผล่น้ำพอ

แนะนำในการว่าย ท่ากรรเชียง ต้องปล่อยตัวตามสบาย อย่าไปเกร็งตัว ยิ่งเกร็งตัว ตัวจะหนักแล้วก็จะจม ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ ขาก็เตะไปเรื่อยๆ หลักการดึงแขน ค่อยๆดึงๆสลับกันไปทีละแขน ไม่ต้องรีบ หลักการเดียวกันกับท่าฟรีสไตล์เลยค่ะ

พยายามควบคุมร่างกาย อย่าให้หัวโยกตามแรงมือที่ดึงแขน เพราะมันจะทำให้เราว่ายเบี้ยว ในส่วนของการเรื่องหายใจ ครูแนะนำ ให้เราหายใจเข้าทางปาก หายใจออกทางปากก็ได้นะคะ เพราะว่าถ้าเราหายใจเข้าทางจมูก เวลามีน้ำกระเด็นเข้าหน้า

ท่าว่ายน้ำ ท่ากรรเชียง

เราจะสำลักน้ำ หรือน้ำเข้าจมูกได้ แต่ถ้าคุณๆทั้งหลาย อยากเรียนว่ายน้ำเฉยๆ หรือดูท่าทางการว่ายน้ำเพื่อนำไปปรับใช้ สอนลูกหลาน ก็ไม่ต้องไปเคร่งมากหรือสนใจกับข้อความที่เราค้นหาเจอ เวลาที่เราไปเปิดหาข้อมูลใน Google ว่า วิธีการว่ายท่ากรรเชียง

จะต้องให้นิ้วก้อยลงน้ำก่อนหรือจะต้องให้หลังมือลงน้ำก่อน ให้เตะขานับ 5 แล้วดึงแขนหนึ่งครั้ง หรือ เวลาออกตัวท่ากรรเชียงควรอยู่ใต้น้ำให้ได้ระยะทางเกือบ 8 เมตร อะไรแบบนี้ จบกว่าไปสนใจ เพราะนั่นคือวิถีทางเดินของนักกีฬา

ในความคิดของครู คือเราว่ายในแบบที่เป็นเรา ตัวไม่จมน้ำ และเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้ โดยที่ไม่จม ตรงทาง นั่นคือ คุณว่ายน้ำแล้ว จะให้ท่าสวยเหมือนนักกีฬา ก็ต่อเมื่อเราสามารถว่ายได้เรื่อยๆ จะไม่จม ก็ค่อยๆปรับท่าให้สวยตามหลังได้ค่ะ

สิ่งสำคัญคือว่ายเอาที่เราถนัด ท่าว่ายน้ำ ปรับเปลี่ยนได้มันเป็นความถนัดของแต่ละบุคคล เพียงแต่ว่าว่ายไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบ ขอแค่ว่า อย่าเกร็งตัว อย่าพับเอวเข้ามาเยอะ จนทำให้หน้าเรามองเห็นปลายเท้า ให้รักษาระดับน้ำ ไว้ที่ระดับหู อยากเงยหน้าจนน้ำท่วมด้านหลังหัว แล้วก็ไม่ควรก้มหน้า

เอาคางมาชิดหน้าอกด้วย ท่ากรรเชียง เป็นท่าที่ต้องใช้หลังเป็นส่วนสำคัญในการว่ายน้ำ จึงช่วยให้เกิดการคลายกล้ามเนื้อบริเวณหลัง และยังช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยหลังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นท่าที่เหมาะสำหรับการฟื้นฟูร่างกาย ช่วยความเหนื่อยล้าจากการว่ายน้ำต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

นี่คือเกล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการว่ายท่ากรรเชียงค่ะ เราไม่ต้องไปคิดมากนะคะ อย่างที่บอกเราไม่ใช่นักกีฬา ครูปุ้มสอนให้พวกคุณที่เข้ามาอ่านสามารถ นำความรู้จากตรงนี้ไปใช้ฝึกด้วยตัวเองก็เท่านั้นค่ะ ท่ากรรเชียงช่วยกระชับส่วนไหนบ้าง

ได้แก่ ไหล่ แขน ปีก ( Lats muscles ) หลัง ก้น และขา ระยะเวลาที่จะต้องว่ายน้ำอย่างต่อเนื่อง 30 นาที เพื่อช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ ใช้งาน 190 – 260 แคลอรี่ (ในเรื่องของการเผาผลาญ ครูอ่านเจอมาจากบทความนะคะ เลยนำมาเพิ่มเติมให้ทราบกัน)

3. ท่ากบ – Breaststroke

อย่างที่บอกไว้ในบทความแรก ๆ ว่า ท่าว่ายน้ำ ท่ากบ ก็คือการเลียนแบบการว่ายน้ำของกบ อ๊บๆนั่นเอง คุณอาจจะไปเปิดดูคลิปวิดีโอ การว่ายน้ำของกบแล้วคุณก็นำมาปรับให้เหมาะกับตัวคุณเอง ในส่วนของท่ากบ จะเน้นการใช้แรงจากขามากกว่าแขน

ใช้ขาเป็นตัวขับเคลื่อนไปด้านหน้าใช้แขนแค่ช่วยพยุงตัวให้เราจะใช้แขนพยุงยกตัว ขึ้นมาหายใจเท่านั้น การถีบเท้ากบนั้น ให้ใช้ฝ่าเท้าเป็นตัวถีบน้ำออกไปด้านข้าง โดยไม่ใช้หลังเท้าแบบในท่าฟรีสไตล์หรือท่าผีเสื้อเด็ดขาด

ท่าว่ายน้ำ ท่ากบ

ถ้าเราถีบเท้าออกไปแล้ว ได้ยินเสียงน้ำ ดังวืด ดังจ๋อม นั่นคือเราถีบเท้าผิดนั่นเอง เพราะการถีบเท้ากบ จะไม่ถีบขึ้นมาเหนือน้ำ อย่างเด็ดขาด ย้ำให้ใช้ฝ่าเท้าถีบออกไป เวลาที่ครูสอนเด็ก ครูจะจับเท้าเด็กไว้ แล้วจะพูดไปด้วย แล้วจับเท้าเด็กฝึกไปเรื่อยๆ

ครูจะให้ท่องไว้ว่า พับ (ก็คือการงอเข่าเข้ามาหาก้น) หลังจากนั้น กระดกปลายนิ้วโป้งเท้าขึ้น ถีบก็คือถีบออกไปด้านข้าง ครูจะบอกเด็กว่า ถีบ ส่วนขั้นสุดท้าย คือ รวบ คือ รวบขาทั้ง 2 ข้าง เข้ามากัน งุ้มปลายเท้าเล็กน้อยทั้งสองข้างรวบเข้ามาให้ขาเป็นเส้นตรง นับในใจ 1 2 3 ขึ้นหายใจ แล้วค่อยทำใหม่

เคราตินบำรุงผม

[WD_Button id=2540]

เริ่มจากกการคือพับ ถีบ รวบ แล้วขึ้นหายใจ ค่อยๆทำทุกอย่าง อันนี้เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆ ที่ครูปุ้มใช้ในการสอนเด็กๆค่ะ ในส่วนของการดึงแขน ขึ้นมาหายใจก็คือกดมือ และแขนลงไปในน้ำ แล้วก็วาดมือออกไปทางด้านข้างเหมือนลักษณะกลมๆ

บางคนก็บอก อาจจะกดมือทำมุม 45 องศา กดมือลงไป ให้แยกออกจากกันเล็กน้อยแล้วก็ดึงเข้าหาตัวแล้วก็พูดมือทำมือพนมเป็นดอกบัวพุ่งออกมาด้านหน้า เราจะใช้คำพูดที่อธิบายง่ายๆ ครูจะมีคลิปให้ดูด้วยนะคะไม่ว่าจะเป็นการถีบขาและการดึงแขน ดังนั้นท่ากบจึงเหมาะสำหรับการผ่อนคลาย ท่ากบ ใช้การเตะขา เลียนแบบจากการว่ายน้ำของกบ เป็นการเคลื่อนไหวโดยใช้มือดันน้ำออกจากลำตัว เป็นท่าที่ไม่ต้องใช้ความเร็วมาก และเหนื่อยน้อยที่สุด การว่ายท่ากบกระชับส่วนไหนได้บ้าง ไหล่ กล้ามเนื้อด้านหลังต้นแขน

( Triceps ) หน้าอก ปีก ( Lats muscles ) ต้นขา สร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจ และ ปอด ระยะเวลาที่ว่ายต่อเนื่อง 30 นาที ช่วยเผาผลาญได้ 350 – 370 แคลอรี่ (ในเรื่องของการเผาผลาญ ครูอ่านเจอมาจากบทความนะคะ เลยนำมาเพิ่มเติมให้ทราบกัน)

4. ท่าผีเสื้อ – Butterfly stroke

ท่าผีเสื้อเป็น ท่าว่ายน้ำ มีลักษณะเหมือนกับปลาโลมา แต่ถ้าครูใช้สอนเด็กผู้หญิง ครูปุ้มจะบอกเด็กๆว่าให้เราเตะขาท่านางเงือกกันดีกว่า เด็กๆก็จะเข้าใจทันทีค่ะ ว่าขานางเงือกเป็นแบบไหน การเตะขาท่าผีเสื้อจะช่วยส่งให้ตัวเรา พุ่งไปทางด้านหน้า

รวมไปถึง ต้องใช้ลำตัว และกล้ามเนื้อหลัง ในการบังคับ ให้ตัวลอยน้ำ ในช่วงเวลาหายใจ เป็นหนึ่งครั้ง หรือ หนึ่งสโตรค เป็นท่าที่ใช้พลังงานเยอะและก็เหนื่อยกว่าในทุกๆท่าที่กล่าวมาด้านบน เวลาที่ครูปุ้ม จะบอกว่า บิน บินขึ้นมาหายใจ

การใช้แขน บินขึ้นมานั้น ห้ามงอแขนเด็ดขาด เพราะว่าการว่ายท่าผีเสื้อ แขนจะต้องตรง เวลาโผล่ขึ้นมาหายใจ เป็นท่าที่ว่ายยากพอสมควร เพราะถ้าเราไม่มีแรงส่งจากไหล่ แขน จะทำให้เราไม่สามารถขึ้นมาหายใจได้เลย ครูก็มีคลิป Videos การว่ายท่าผีเสื้อ มาฝากด้วยนะคะ

ในส่วนท่าผีเสื้อ เหมาะสำหรับการเบิร์นไขมันมาก ท่าผีเสื้อ เป็นท่าที่ดีที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ เพื่อรีดไขมันออกจากตัว ท่าผีเสื้อเป็นท่าที่ต้องใช้พลัง และความอ่อนตัวสูง โดยใช้ส่วนขาเตะน้ำเหมือนปลาโลมาว่ายน้ำพลิ้ว ๆ แต่ช่วงบนก็ต้องผุดโผล่หัวเหนือน้ำ

และใช้พลังแขนโหมกวักน้ำออกจากตัว เรียกว่า สวยสตรอง ช่วยกระชับส่วนไหนบ้าง ก็ได้แก่ ไหล่ แขน หน้าอก หน้าท้อง และหลัง แถมยังช่วยสร้างความแข็งแรง และ เพิ่มพลังให้กับร่างกาย ระยะเวลาที่ว่ายต่อเนื่อง 30 นาที

ท่าผีเสื้อ

ซึ่งสามารถทำการ เผาผลาญแคลอรี่ ได้มากถึง 350 – 410 แคลอรี่ เชียวนะคะท่านผู้ชม (ในเรื่องของการเผาผลาญ ครูอ่านเจอมาจากบทความนะคะ เลยนำมาเพิ่มเติมให้ทราบกัน ท่าว่ายน้ำ ทั้ง 4 ท่า ให้มากขึ้นกว่าเดิมนะคะ พร้อมทั้งแนะนำเกล็ดเล็กๆน้อยๆของในแต่ละท่า

เพื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละคน รวมไปถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อร่างกาย กล้ามเนื้อมัดต่างๆด้วยขอจบเพียงเท่านี้ก่อนค่ะ วันนี้ไปก่อนนะคะ ขอบคุณที่อ่านบทความ เราสนับสนุนให้ทุกคนรักการอ่านกันเยอะ ๆ นะคะ สวัสดีค่ะ

ติดตามวิดีโอเทคนิคสอนการว่ายน้ำ ได้ที่ facebook ว่ายน้ำกับครูโน็ต กับครูปุ้ม