มะเร็งปอด หมอเจ้าของเพจสู้ดิวะ กับการเป็นมะเร็ง

จาก เพจสู้ดิวะ มีคุณหมอท่านหนึ่งมาบอกว่า ตัวเองเป็นคนชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกายมาอย่างตลอด ปัจจุบันอายุ 28 ปี แต่มีอาการ มะเร็งปอด ระยะสุดท้าย

คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล ปัจจุบันได้บรรจุเป็นอาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองไว้เป็นฉาก ๆ ท้ายสุดของสิ่งที่กำลังทำ คุณหมอได้บอกว่า กำลังจะซื้อบ้าน กำลังจะแต่งงาาน และตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

มันเป็นความรู้สึกจุกอกมากตอนอ่าน พ่อเราเองเป็นมะเร็งระยะแรก ตรวจพบเจอได้ไว เพราะท่านไปพบหมอบ่อยจากโรคทางเดินหายใจ โรคหอบ ท่านแก่แล้ว

และผ่านการสูบบุหรี่ในระยะเวลาที่ยาวนาน พอหายใจติดขัดหรือมีปัญหาอะไร คุณหมอพาไปตรวจและพบเชื้อ เริ่มทำการรักษา ปัจจุบันพ่อเราหายดีแล้ว

แต่คุณหมอบอกว่า สุขภาพของคนแก่วัยชรา ร่างกายเสื่อมถอยไปตามสังขารของอายุ ให้ดูแลให้ดี เลือกอาหารให้ดี ดูแลในเรื่องอาหารเยอะ ๆ

ขนาดพ่อเราเป็นระยะเริ่มต้น เราเองยังวิตกกังวลมากเลย แต่พ่อเราสู้มากเลยนะ หันกลับมาดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ดื่มน้ำสะอาด คุมอาหาร

พอเราอ่านโพสต์ของคุณหมอ แล้วมาสะดุดกับคำว่า ระยะสุดท้าย ความรู้สึกเหมือนคุณหมอเล่ามา มีแต่สิ่งดี ๆ กำลังจะมีบ้าน กำลังจะมีครอบครัว

แล้วมาตรวจพบโรคมะเร็งระยะลุกลาม แต่คุณหมอกฤตไทเค้าสู้มากเลยนะ อยากบอกหมอว่าเราเป็นกำลังใจให้คุณหมออย่างถึงที่สุด ต้องสู้ดิวะ

• ไม่ดื่มน้ำเปล่า ป่วยไร้สัญญาณเตือน อาจเป็นอัมพาตครึ่งตัว

มะเร็งปอด

มะเร็งชนิดนี้เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่ง ที่คร่าชีวิตของคนทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เรามักจะพบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง คนส่วนใหญ่มาตรวจพบต่อเมื่อ

มีอาการลุกลามแล้ว นอกจากคนไหนโชคดีตรวจพบเจอแต่แรก ๆ จะรักษาได้ผลเป็นอย่างดี แต่ด้วยสมัยนี้วิทยาการทางการแพทย์นั้น พัฒนาไปไกลมากแล้ว

ทำให้การรักษามะเร็งชนิดนี้ มีประสิทธิภาพดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมะเร็ง ไม่ว่าจะระยะไหน แพทย์จะดูแลรักษาได้ดีกว่าในสมัยก่อน ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมีดังนี้

ต้นเหตุของโรค

บุหรี่

เป็นสาเหตุที่สร้างความเสียหายให้กับเยื่อบุหลอดลมปอด ทำให้เกิดความระคายเคือง ทำให้เซลล์หลอดลมกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง รวมไปถึงผู้ใกล้ชิดคนสูบบุหรี่

มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า หากผู้สูบบุหรี่เยอะ ๆ ภาษาชาวบ้านเรียก มวนต่อมวน  เมื่อหยุดสูบแล้วความเสี่ยงจะลดลงด้วยเช่นกัน

สารพิษ

แร่ใยหิน หรือแอสเบสตอส ถ้านึกไม่ออกคือ ฉนวนกันร้อน คลัช ผ้าเบรค เหมืองแร่ การก่อสร้างอาคาร คนทำงานในอุสหกรรมพวกนี้ สามารถเกิด โรคมะเร็งปอด

ได้มากกว่าคนทั่วไป 5 เท่า ทำให้เกิดมะเร็งเยื่อหุ้มปอดได้ด้วย ถ้าคนงานในอุสหกรรมนั้น ๆ เค้าสูบบุหรี่ด้วย จะทำให้เสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป 90 เท่า

โรคปอด

ผู้เคยมีประวัติเป็นวัณโรค ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง ผู้ป่วยเคยมีรอยแผลเป็นของโรคที่ปอด มีโอกาสเกิดมะเร็งบริเวณปอดได้สูงกว่าคนทั่วไป

ฝุ่น PM 2.5

โลกในปัจจุบัน เรากำลังเจอกับสภาวะ PM2.5 เจ้าตัวนี้เป็นปัจจัยทำให้เรา ๆ ท่าน ๆ ทุกคนกำลังมีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งบริเวณปอดได้ 1 – 1.4 เท่า เป็นสารก่อมะเร็ง

โมเลกุลขนาดเล็กเพียงแค่ 2.5 ไมครอน เล็กสุด ๆ จนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ถ้ามันลอยมาเราไม่สามารถรู้ได้เลย PM2.5 จะลอยเข้าไปในหลอดลม เข้าไปในปอดของเรา

อย่างไม่รู้ตัว และไร้วิธีการป้องกัน หากปอดรับไว้ในปริมาณมาก จะเกิดการอักเสบ กลายพันธุ์ของ DNA RNA ถ้าเราต้องสูดดมอากาศแบบไม่ใส่แมส ไม่ป้องกันเลย

เราจะรับเข้าไปสะสมในปริมาณมากเข้าทุกวัน ร่างกายไม่สามารถต่อสู้ไหว นั่นแหละจะกลายเป็นมะเร็งชนิดอะดีโนคาร์ซิโนมา (Adenocarcinoma) หรือมะเร็งชนิดต่อม

ถ้ายิ่งคนสูบบุหรี่ด้วยแล้ว รวมเข้ากับสูดดม PM2.5 เข้าไปทุกวัน บอกเลยว่าคุณจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเป็นเท่าทวีคูณ เราเตือนคุณแล้วนะ

โดยนายแพทย์มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ออกมาทวีตข้อความในเรื่องของคุณหมอกฤตไท

เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งได้ ทั้งทีคน ๆ นั้นไม่เคยสูบบุหรี่มากก่อน ซึ่ง PM2.5 เป็นเหตุสำคัญในการเกิดโรคชนิดนี้ การกลายพันธุ์

ของยีน EGFR ซึ่งพบกว่า 50% ของคนไทยที่ป่วยเป็นโรคนี้ โดยพบว่าเซลล์ปอดที่มี EGFR กลายพันธุ์นั้น จะไม่เปลี่ยนเป็นมะเร็ง จนกระทั่งได้รับ PM2.5 เข้าไป

นายแพทย์มานพ บอกอีกด้วยว่า เรื่องของคุณหมอกฤตไทนั้นทำให้เกิดแรงผลักดันโครงการ มะเร็งปอด ต่อไป ถึงจะเป็นงานใหญ่ งานช้าง แต่จะพยายามผลักดัน

ให้มีการตรวจปอดด้วย Comprehensive Genomic Profile ละให้ยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้าตามผลตรวจ เกิดขึ้นในระบบสุขภาพเมืองไทย ขอเวลาในการหาทุนอีกนิด

อย่างไรก็ตาม คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล ได้ออกมาแบ่งปันและเล่าเรื่องราวของตัวเอง ให้เป็นความรู้แก่คนทั่วไป ผู้ชายคนหนึ่ง แข็งแรง เล่นกีฬา ร่างกายฟิตมาตลอด

ไม่เคยสูบบุหรี่เลยในชีวิต ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ วันหนึ่งตรวจพบมะเร็ง อีกทั้งยังอยู่ในระยะสุดท้าย สามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็น กระดูก

สมอง ต่อมน้ำเหลือง ตับ ไต ซึ่งไม่สามารถผ่าตัดเอาก้อนออกแล้วหายขาดได้ ในช่วงคุณหมอเขียนโพสต์ให้ความรู้ ในเพจสู้ดิวะ คือช่วงอยู่ในกระบวนการรักษา

มีการรับยาเคมีบำบัด อีกทั้งยังมีอาการ ปวดหัว เหนื่อย อ่อนเพลีย ผมร่วง และภูมิต่ำ จากการให้ยาเคมี เพื่อน ๆ สามารถไปให้กำลังใจคุณหมอกันได้ในคอมเม้นต์เพจ

สู้ดิวะ และไปรับความรู้ รับฟังเรื่องราวของคุณหมอวันต่อวันได้อีกด้วย เราเองขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอ ขอให้คุณหมอสุขภาพแข็งแรง ดีขึ้น ดีขึ้น ดีขึ้นในทุก ๆ วัน

อัพเดท: 5 ธันวาคม 2566 คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล ได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ แอดมินขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวด้วยนะคะ