มือใหม่หัดวิ่ง วิ่งระยะทางไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง
มือใหม่หัดวิ่ง อยากลงงานวิ่ง ขอสะสมเหรียญบ้าง ระยะทางวิ่งมีอะไรบ้าง เพราะระยะทางไม่ได้มีแค่ Fun Run 5 กิโลเมตร หรือ Mini Marathon
10.5 กิโลเมตร เท่านั้นหรอกนะ วันนี้จะพาไปดูประเภทของการวิ่งกัน ที่เป็นรายการแข่งวิ่งแบบสากลทั่วโลก ฟิตแค่ไหน ถามใจตัวเองดู (Ep.1)
มือใหม่หัดวิ่ง มีงานวิ่งประเภทไหนบ้าง
“ฟิตแล้ว ซ้อมพอสมควรแล้ว ผมอยากจะลงงานวิ่งสะสมเหรียญเหมือนพี่ ๆ บ้าง ผมควรเลือกแบบไหนดีครับ” งานวิ่งต่าง ๆ เป็นงานที่มาเพื่อ
ทดสอบว่า การซ้อมของเราเพียงพอหรือไม่ เรามีความแข็งแรงของร่างกายดีขนาดไหน แล้วเราจะลงแข่งงานไหนดี มีหลายระยะทาง
มีหลายรูปแบบเสียเหลือเกิน ทั้ง Mini ทั้ง Micro หรือจะแบบ Full ไหนจะงานวิ่งเข้าป่าอีก เรามาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันเลย
1.ฟันรัน (Fun Run) หรือ Micro Marathon
ฟันรัน เป็นการวิ่งระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร เป็นการวิ่งระยะทางสั้นสุดของมาราธอนทั้งหมด มือใหม่หัดวิ่ง หลาย ๆ คน ซ้อมยังไม่เยอะ
แนะนำให้ลงรายการนี้เลย ถือเป็นการปฐมบทงานวิ่งแรกในชีวิต วิ่งบ้าง เดินบ้าง เป็นการลองสนาม ไปรับบรรยากาศภายในงาน ไปพบเจอ
เพื่อนใหม่ แลกเปลี่ยนความคิดกัน เมื่อมีประสบการณ์แล้ว ตัดสินใจเองนะ จะเพิ่ม Level จะหางานวิ่งต่อ หรือพอแค่งานนี้
2. มินามาราธอน (Mini Marathon)
มาราธอนแบบมินิ มินิ ระยะทางในการวิ่งคือ 10.5 กิโลเมตร เราเคยลงไปรายการนี้ เป็นงานวิ่งแรกสุดของเรา และเป็นงานสุดท้ายเช่นกัน
อันนี้เนื่องมาจากเราไม่มีเวลาไปลงงานอื่น ๆ ไม่ใช่ถอดใจนะ ทุกวันนี้เรายังวิ่งออกกำลังกายอยู่เรื่อย ๆ ทำไมเราถึงไม่ลงวิ่งฟันรัน
เป็นรายการแรก เพราะเราวิ่งออกกำลังกายระยะทางประมาณ 6 – 8 กิโลเมตรอยู่เป็นประจำ (ช่วงฟิตหุ่นอยากมีกล้ามท้อง)
ร่างกายจึงคุ้นชิน ประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตเลย สนุกสนานมาก บรรยากาศดี วิ่งไปฟังเพลงไป มีเพื่อนวิ่งอีกเป็นหลายร้อยคน
3.ฮาล์ฟมาราธอน (Half Marathon)
Half = ครึ่ง คือระยะทางครึ่งหนึ่งของมาราธอน ต้องวิ่งทั้งหมด 21 กิโลเมตรนั่นเอง เป็นระยะทางที่โหดเอาเรื่องเลย กระโดดจากมินิ
1 เท่าตัวเชียว ระยะนี้ต้องซ้อมมาเป็นอย่างดี ใครจะลงระยะนี้เตรียมร่างกายให้พร้อมเลยนะ เพราะถ้าร่างกายไม่พร้อม จะส่งผลกระทบ
ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น อาการตะคริว การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ถ้าเหนื่อยจนหายใจไม่ทันอาจจะหมดสติได้ เพราะวิ่งค่อนข้างไกลทีเดียว
4.มาราธอน (Marathon)
มือใหม่หัดวิ่ง เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทําไมมาราธอนต้อง 42.195 กิโลเมตรด้วย จะเป็น 40 กิโลเมตร หรือ 42 กิโลเมตรถ้วนไม่ได้หรือ
ขอเล่าประวัติแบบย่อ ๆ ให้ฟังหน่อยละกันนะ เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อปี 1908 โอลิมปิกที่กรุงลอนดอน ราชวงศ์อังกฤษโปรดปรานการดูกีฬาเป็นอย่างมาก
จึงจัดให้จุดออกตัวของการวิ่งในครั้งนี้อยู่ใกล้ ๆ กับปราสาทวินเซอร์ และจุดเข้าเส้นชัยขยับไปตรงที่นั่ง VIP รวมแล้วระยะทาง 42.195 กิโลเมตร
ตั้งแต่ปี 1921 ทางสหพันธ์ฯ จึงประกาศให้ใช้ระยะทางนี้มาจนถึงปัจจุบัน ถือว่าเป็นระยะทางสุดโหดเอาการเลยทีเดียว ใครคิดวิ่งจริงจัง ตั้งเป้าหมาย
ไว้อยู่แล้ว ว่าอยากพิชิต 42.195 กิโลเมตรให้ได้ ต้องเอาจริงเอาจังมากเลย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม อาหารการกิน การพักผ่อน เพราะเมื่อออกตัว
ไปแล้ว คุณจะต้องเจอสภาพปัญหาในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งความเมื้อยล้าของกล้ามเนื้อ ไหนจะหิวน้ำ หิวอาหาร บางคนตะคริวกิน เตรียมตัวกันให้ดีนะ
5.อัลตร้ามาราธอน (Ultra Marathon)
เป็นการวิ่งในระยะทางมากกว่า 42.195 กิโลเมตรนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น 60, 70, 80, 90 ไปจึงถึง 100 กิโลเมตร เราว่าแค่ฮาล์ฟมาราธอน
เราคงหมดสภาพแล้วแน่ ๆ ถ้าต้องมาวิ่ง 100 กิโลเมตร จะขนาดไหนกัน ระยะทางยิ่งเยอะ เวลาในการวิ่งยิ่งมากขึ้นตามตัว บางรายการ
วิ่งกันเป็น 10 ชั่วโมง พวกพี่เหล่านี้เค้าเอาเรี่ยวเอาแรงมากจากไหนกัน ซึ่งคนจะมาวิ่งอัลตร้า ต้องมีร่างกายแข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ฝึกวิ่งระยะไกล จนร่างกายมีความแข็งแรงสุด ๆ รวมถึงสภาพของจิตใจต้องดีมาก ๆ อีกด้วย ถึงจะมาท้าทายอัลตร้ามาราธอนได้นะ
ผ่านมาครึ่งทางแล้วนะ ของประเภทการแข่งขันวิ่งมีจัดทั่วโลก ยังเหลืออีก 5 ประเภท เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังต่อใน Ep.2
เพื่อน ๆ คนไหนซ้อมวิ่งมาเรื่อย ๆ แต่ไม่เคยลงงานวิ่งเลย ลองดู 1 ใน 5 รายการนี้ ว่ามีอะไรโดนใจเราบ้างหรือยัง ถ้ายังไม่โดน
รออีก 5 ประเภทที่เหลือ มีให้เพื่อน ๆ ได้เลือกอีกแน่นอน วันนี้เราขอตัวไปซ้อมวิ่งก่อน สะสมแรงไว้ เผื่อเจอรายการที่อยากลง
การวิ่งนั้นมีประโยชน์มากมาย เป็นกีฬาที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ และใช้ออกกำลังกายในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดทุกวัน นอกจาก
ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว สุขภาพจิตของเราจะดีขึ้นมากมาย ช่วยลดอาการซึมเศร้า ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น
เพราะสมองจะผลิตเอนเดอร์ฟินและเอนโดแคนนาบินอย์ ช่วยในการทำให้เราเป็นคนมีอารมณ์ดี อีกทั้งป้องกันโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วย