ลูกกลัวการเรียนว่ายน้ำ
วันนี้ ครูปุ้ม จะมาถ่ายทอดเรื่องราวของครูสอนว่ายน้ำ ที่ต้องสู้ชีวิตมาก แบบที่หลาย ๆ คนไม่เคยรู้มาก่อน เมื่อผู้ปกครองตั้งคำว่าถาม ลูกกลัวการเรียนว่ายน้ำ
ลูกร้องไห้ เมื่อรู้ว่าต้องมาเรียนว่ายน้ำที่โรงเรียน ลูกบอกไม่ชอบ ลูกไม่อยากเรียน ทำไมคะครู เป็นคำถามสุดฮิตมากเลย ในช่วงเปิดเทอมแรกของโรงเรียน
เป็นคำถามที่ครูประจำชั้นช่วยตอบให้ครูปุ้มทุกปีการศึกษา ทำไมลูกไม่อยากเรียนว่ายน้ำ ลูกบอกไม่อยากเอาชุดว่ายน้ำมา ลูกร้องไห้บอกกลัว และอื่น ๆ มากมาย
ปัญหาพวกนี้ เราจะพบปล่อยครั้งในช่วงเดือนแรกของการเปิดเทอมโดยเฉพาะเด็กอนุบาล 1 ที่ไม่เคยเล่นน้ำสระว่ายน้ำมาก่อนเลย
และในเด็กนักเรียนที่ย้ายมากลางเทอม หรือย้ายมาในช่วงอนุบาล 2 หรือ อนุบาล 3 เป็นเด็กที่ไม่มีพื้นฐาน ไม่เคยลงน้ำ และกลัวน้ำมาก่อนแล้ว
ครูปุ้มเข้าใจผู้ปกครองทุกคน ที่ลูก ๆ ไม่อยากว่ายน้ำ ท่านมีความกังวล ด้วยหลายปัจจัยที่เด็กไม่ชอบ ขอเวลาให้กับลูก ๆ ของคุณพ่อ คุณแม่หน่อยแล้วกัน
ลูกกลัวการเรียนว่ายน้ำ
ขอถ่ายทอดเรื่องราว เรื่องเล่า ที่ครูพบเจอตลอดระยะเวลาในการเป็นครูสอนว่ายน้ำ ตั้งแต่เริ่มเป็นครูสอนว่ายน้ำ ช่วงนั้นยังเรียนอยู่ ปี1 พลศึกษา มศว. จนถึงปัจจุบัน
คาดว่าเล่าในครั้งนี้คงจะไม่หมด อาจจะมาเล่า มาเม้าต่อในภาค 2, 3, 4 จนกว่าจะหมด รวม ๆ ไว้เผื่อครูสอนว่ายน้ำคนใดเจอเหตุการณ์แบบนี้ เป็นกำลังใจให้นะ ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เคยเจอ
ฝึกลอยตัวด้วยห่วงยาง
สำหรับเด็กอนุบาล 1 มีเด็กจำนวนไม่น้อยเลยที่กลัวการลงเรียนว่ายน้ำ มีส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่กลัวการเรียนว่ายน้ำ สามารถใส่ห่วงยาง
พร้อมเตะขาเคลื่อนที่เองได้ แต่ละห้องจะมีเด็กที่ไม่กลัว อยากเล่นน้ำ พร้อมลุยเสมอ อยู่ประมาณ 3 – 4 คนเท่านั้น ที่เหลือครูต้องค่อย ๆ ปรับ
การให้เด็กใส่ห่วงยาง และลอยตัวอยู่ในน้ำด้วยตัวเอง เด็กบางคนกลัวมาก ร้องไห้โวยวาย ทั้ง ๆ ที่ไม่จมน้ำ ไม่สำลักน้ำเลย แต่ความกลัวเกาะกุมหัวใจ
น้องไม่เปิดใจในการเรียนว่ายน้ำ และไม่เปิดใจให้กับครูสอนว่ายน้ำ ที่พึ่งเคยเห็นหน้าครั้งแรก ช่วงสัปดาห์แรกที่ลงเรียนนั้น เป็นอะไรที่ครูสงสารเด็กเล็กมาก
บางคนใช้เวลาในการเรียน 2 – 3 ครั้งเท่านั้น สามารถใส่ห่วงยางและลอยตัวในน้ำได้ โดยที่ไม่กลัว ไม่ร้องไห้ แต่บางคน ใช้เวลานานกว่านั้น
บางคนผู้ปกครองแจ้งว่า ลูกเคยจมน้ำมาก่อน ทำให้ ลูกกลัวการเรียนว่ายน้ำ มาก ถ้าลูกร้องไห้ ลูกไม่อยากเรียน ให้พาขึ้นได้เลย
พ่อ – แม่ เกรงใจครู เพราะลูกร้องไห้เสียงดังมาก อาจจะทำให้เพื่อนคนอื่นตกใจและร้องไห้ตาม พ่อ – แม่เข้าใจครู ถ้าลูกกลับมาบอกว่าไม่อยากว่ายน้ำ
ครูสอนว่ายน้ำเสียงดัง
เรื่องจริงครับผม โดนเรื่องนี้ทุกปี สระว่ายน้ำโรงเรียน A มีบริเวณโคตรกว้าง เด็กนั่งเรียน 20 – 30 กว่าชีวิต ในฝั่งสระเด็ก บริเวณที่ครูปุ้มสอน
ในส่วนของสระใหญ่ มีพี่ ๆ ประถมเรียนกับครูท่านอื่นอยู่ เสียงเด็กคุยกัน เสียงเด็กเล่นน้ำ ครูฝั่งโน้นก็สอน ครูปุ้มตะโกนสั่งเด็ก ๆ ให้เตะขา
ครูปุ้มสอนเด็ก ๆ แข่งกับเสียงรอบข้าง เคยพูดเบา ๆ แล้วนะ แต่เสียงมันไปไม่ได้ไกล ทำให้เด็กบางคนไม่ได้ยินเสียงครู อยู่มาวันหนึ่ง
พอเราตะโกนสอนเสียงดังประมาณหนึ่ง เด็กชาย H กลับไปบอกแม่ว่า ครูตะโกนเสียงดังมาก เวลาหนูเรียนว่ายน้ำ เช้ามา แม่เดินหน้าตึงมาที่ห้อง
แจ้งครูประจำชั้นว่า ลูกกลัวการเรียนว่ายน้ำ เพราะครูสอนว่ายน้ำเสียงดัง ลูกไม่ชอบ ของดเรียนว่ายน้ำไปก่อนได้หรือไม่
จำลองสถานการณ์ให้เห็นภาพ เหมือนเราตะโกนในสนามฟุตซอล ที่เค้ากำลังเชียร์บอลกันอยู่ ถ้าพูดเสียงเบา เด็กคนอื่นที่ไกลเราออกไป เค้าก็ไม่ได้ยินเสียงเรา
แล้วเราก็ไม่ได้ตะโกนดุเด็ก หรือด่าเด็กชาย H เลย ใด ๆ คือเราเสียงดังในระหว่างปฏิบัติหน้าที่สอน เราสอนวิธีการเตะขาท่าฟรีสไตล์ แบบไหนถูก แบบไหนผิด
แต่เรื่องนี้เราไม่ได้นิ่งเฉย หาวิธีแก้ไขในการเรียนครั้งต่อไป คือ ย้ายน้อง H จากหัวแถว ไปอยู่กลางแถว แต่พอไกลครู เหตุการณ์ต่อมาที่เกิดขึ้น
เด็กชาย H ไม่ได้ยินเสียงครู ทำให้ไม่มีสนใจเรียน ชวนเพื่อนคุย และสาดน้ำใส่หน้าเพื่อน ครูหัวจะปวด ต้องส่งครูประจำชั้นไปนั่งประกบข้างสระด่วน ๆ
ครูไม่ให้ใส่ห่วงยาง
เด็กอนุบาล 2 หรือเด็กที่มีความสูงมากกว่า 90 เซนติเมตร เด็กที่สูงจนสามารถเดินในสระว่ายน้ำได้แล้ว ครูจะไม่ให้ใส่ห่วงยางแล้ว
และฝึกให้เด็ก ๆ เดินในสระว่ายน้ำ ด้วยการจับขอบสระ แรก ๆ เด็กที่เคยยืนไม่ถึงเมื่อตอนอนุบาล 1 พอโตขึ้นเข้าสู่อนุบาล 2
เด็กส่วนใหญ่จะยืนในสระว่ายน้ำเล็กระดับ 90 เซนติเมตรถึงแทบจะทุกคนเลย แต่เด็กบางคน มักคิดไปเองว่ายืนไม่ถึง ทั้ง ๆ ที่ครูคอยจับมืออยู่ตลอดเวลา
บางคนกลัวมาก ทั้ง ๆ ที่ยืนถึง แต่หดขา งอเข่าไว้ ไม่ยอมยืดออกมา ทำเหมือนคนขาขาด และร้องโวยวาย ครูเองก็พูดตลอดว่า “ยืนถึงลูก น้องยืนถึง”
สุดท้ายน้องไม่ยอมยืน ครูสงสารต้องให้ขึ้นไปนั่งบนขอบสระ สำหรับเด็กอนุบาล 2 จะหัดเรียนการเตะขาด้วยการจับโฟม ไม่ใช่ห่วงยางแล้ว
ดังนั้นเด็ก ๆ ทุกคนในระดับชั้นอนุบาล 2 จะต้องฝึกเตะขาด้วยการจับโฟมทุกคน จะไม่มีใครได้ใส่ห่วงยางเลยในระหว่างเรียน ยกเว้นเด็กที่ตัวเล็กจริง ๆ
ช่วงหลังจากเรียนเสร็จแล้ว เป็นช่วงเวลาอิสระ ครูจะให้เด็กตัวเล็กนั้นใส่ห่วงยางได้ ในทางกลับกัน เด็กที่ยืนถึงแล้ว แต่กลัวที่จะต้องยืน หรือต้องเดินเองในสระ
อยากใส่ห่วงยางด้วย พอครูไม่อนุญาต เด็กจะไม่ยอมเล่นน้ำต่อในช่วงเวลาอิสระ พวกเค้าจะขึ้นจากสระ อาบน้ำ และไปแต่งตัว พร้อมกับกลับไปบอกพ่อ – แม่ว่า
ครูไม่ให้ใส่ห่วงยาง ทำไมเพื่อนคนนั้นใส่ได้ ทำไมหนูใส่ไม่ได้ ครูให้หนูเดินในสระว่ายน้ำ หนูไม่อยากเดิน หนูกลัว หนูไม่ชอบ และบลา บลา บลา
สัปดาห์ต่อมา เด็กคนนั้นไม่ลงน้ำ พ่อ – แม่ ไม่เตรียมชุดมาให้ และบอกครูประจำชั้นว่า อยู่ ๆ ลูกกลัวการเรียนว่ายน้ำ ไม่ให้เอาชุดว่ายน้ำมา
จริง ๆ แล้วการที่เด็กกลัวน้ำมีปัจจัยหลายอย่าง ครูผู้สอนเอง พยายามปรับเด็กให้ชินกับการเรียนว่ายน้ำ ให้ชินกับบทเรียนที่ครูสอน
ทุกปัญหาในการเรียนว่ายน้ำ มีทางแก้ไข เพียงแต่ขอเวลาให้ครูกับด็ก ได้ปรับตัวเข้าหากัน ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันก่อน ทุกอย่างต้องใช้เวลา
ครูปุ้มอยากให้เด็ก ๆ ทุกคนลอยตัวได้ ว่ายน้ำเป็นทุกคน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เพื่อสามารถดูแลตัวเองได้ เมื่อพลัดตก หล่น น้ำ
หรือเมื่อประสบอุบัติเหตุทางน้ำ สามารถลอยตัวได้ในระยะเวลานาน เพื่อรอความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น และรอดชีวิตได้ นี่คือความต้องการของครูสอนว่ายน้ำอย่างเรา