วัดเขาบรรจบ จันทบุรี
Aloha อะโลฮ่า สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้อยู่กับรายการแก๊งค์ชิลล์พาเที่ยว ช่วงเที่ยวไม่ห่างบ้าน วัดเขาบรรจบ จันทบุรี
โดยพวกเราทีมงานสายชิลล์เมืองจันท์กันเหมือนเดิม วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ วัดเขาบรรจบ จันทบุรี ซึ่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี นี่เอง
เราจะมา รีวิว วัดเขาบรรจบ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสอยดาวที่บรรจบกับเทือกเขาคิชฌกูฏบรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการปฏิบัติธรรม วันนี้ก็เป็นวันดีๆอีก 1 วัน ที่พวกเราได้เดินทางมาไหว้พระ มาถวายสังฆทาน มารับธรรมชาติสวยงาม มาสูดโอโซนบริสุทธิ์และซึมซับพลังงานบวกที่วัดแห่งนี้กัน
ถ้าเราตั้งต้นกันที่ถนนสุขุมวิท จากบ้านเรานะมันจะมี 2 เส้นทางให้เลือก ถ้านักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่นจะมา ก็มาได้ง่ายอยู่ ไม่ยากเลย คือคุณใช้ถนนเส้นสุขุมวิท ก็ขับมาเรื่อยๆ ตรงมาเรื่อยๆ มันก็จะมีทางให้เลือก 2 เส้นทาง ดูตามใน Google map มันจะมีให้เลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกเขาไร่ยาก็ขับตรงไปเรื่อยๆแหละเส้นนั้นมันจะผ่านไปทางวัดสมเด็จสิริปุญญาราม
ซึ่งสามารถไปเจอกับถนนอีกเส้นหนึ่งได้ แล้วก็อีกทางหนึ่งที่เป็นทางหลักเลยง่ายๆคือ ใช้เส้นทางถนนสุขุวิท ผ่านทางหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีไปเรื่อยๆ เลยปากแซง เลี้ยวซ้ายเปลี่ยนมาใช้ทางคู่ขนานถนน 317 ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะขึ้นสู่ถนนจันทบุรี – สระแก้ว ผ่านสวนทุเรียนแลนด์ด้วยนะทุกคน ระหว่างทางก็มีที่ท่องเที่ยวเยอะแยะอีกด้วยนะ ติดตามที่เว็บของเราไว้นะ
เราจะมาแนะนำที่เที่ยวอีกเยอะแยะมากมาย ในสไตล์เรา ผ่านสวนทุเรียนแลนด์ ไปเรื่อยๆ พอเราเจอโรงเรียนวัดทุ่งเพล เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าซอย สู่ถนนตะบกเตี้ย 3035 ไปดูในคลิปมีบอกเส้นทางเข้านะจ๊ะ
ก็ขับยาวๆไปเลย แนะนำให้ดูเส้นทางจาก Google map นะ อย่าดูจากคลิปเรา เพราะพวกเราขับเข้าป่า เข้าดง เราเตือนพวกคุณทุกคนแล้วนะ เดี๋ยวจะหลงป่าเหมือนเรา ระหว่างทางไปวัดเขาบรรจบนั้น ก็จะเรียงรายไปด้วยรีสอร์ท หรือพวก โฮมสเตย์ มีศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร แล้วก็มีโฮมสเตย์ โฮมสเตย์ โฮมสเตย์ โฮมสเตย์ เยอะแยะมากมาย แล้วก็คือตรงโฮมสเตย์ก็จะสร้างอยู่ริมน้ำตกเลย ซึ่งถ้าใครอยากจะมาเที่ยวน้ำตกโดยเฉพาะ ก็แนะนำให้มานอนพักที่แถวโซนมะขาม ก็คือทางที่จะไปวัดเขาบรรจบนี่แหละ
เล่นน้ำตกสายเดียวกันคือ น้ำตกเขาบรรจบ นั่นเอง ซึ่งเรามีรูปให้ดูว่าเส้นทางที่เราจะไปวัดเขาบรรจบมันมี รีสอร์ท และโฮมสเตย์ เยอะขนาดไหนเราไม่ได้ค่าสปอนเซอร์จากที่พักใดๆหรอกนะ แต่คือแค่อยากให้ทุกๆคนที่มาเที่ยวได้รู้ว่า เออถ้าอยากมาเล่นน้ำตกโดยเฉพาะ ก็ควรมาหาที่พักทางเส้นมะขาม เพราะมีที่พักที่มันอยู่ติดริมน้ำตก ช่วงนี้ก็มาเที่ยวเมืองไทยนะ แล้วก็แวะมาเที่ยวจันทบุรีกันเยอะๆนะ
พ่อ แม่ พี่ น้อง วกกลับเข้าหา วัดเขาบรรจบ กันต่อนะทุกคน ถ้าเรามาถึงแล้ว เราจะดื่มด่ำกับธรรมชาติ วัดป่ามากๆเลย ซึ่งภายในบริเวณวัดร่มรื่นมาก มีต้นไม้ใหญ่ๆ ขึ้นอยู่เต็มไปหมด ไฮไลท์จะเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่ตรงบริเวณลำต้น มีอุโมงค์ สามารถเดินผ่านทะลุไปอีกด้านได้ ซึ่งถูกเรียกว่า ประตูสวรรค์ คือทางเดินไปบิณฑบาตของพระสงฆ์นั้นเอง ที่ต้องเดินผ่านช่องของต้นไม้ช่องนี้ในทุกๆวัน
ซึ่ง ช่องประตูสวรรค์ ก็เกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินะทุกคน โดยต้นไม้ ต้นใหญ่ๆนี่ มีชื่อว่าต้นสมพงษ์ ซึ่งอายุถ้าเป็นคนก็แก่หง่อมเลยนะ เพราะอายุเป็นร้อยๆปี ความสูงประมาณ 10 เมตรได้ อย่างที่บอกต้นใหญ่มีความใหญ่มาก รอบต้นมีขนาด 10 คนโอบเลยทีเดียว เป็นเหมือนแลนด์มาร์คของวัดก็ว่าได้ ใครที่มาเยี่ยมชมมาทำบุญก็จะต้องแวะมาลอดประตูสวรรค์กันทุกคน
หากนักท่องเที่ยวมาที่วัดเขาบรรจบก็ต้องแวะไปถ่ายรูปตรงนี้แหละ ถ้าไม่ไปถ่ายรูปคู่กับประตูสวรรค์ คุณมาไม่ถึงวัดเขาบรรจบนะ และสิ่งที่สวยงามที่สุด ตั้งเด่นเป็นสง่าภายในบริเวณวัดก็คือ พระอุโบสถ ไม้ ที่มีความสวยงามมากๆ ซึ่งเสาแต่ละต้น ได้มีการลงลายไทยด้วยสีทอง พื้นของอุโบสถเป็นพื้นไม้ขัดเงา และมีองค์พระประธานที่สวยงาม
ถ้าหากว่าอยากเปลี่ยนเส้นทางไม่อยากเข้าทางด้านหน้าตัววัด แนะนำให้ไปจอดรถฝึกฝากหนึ่งเป็นทางด้านที่อยู่ทางฝั่งหน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งเพล เราจะต้องเดินข้ามลำธารเข้ามาที่ตัววัดเขาบรรจบ เราจะเข้ามาโดยสะพานเล็กๆ เป็นสลิง เดินไปมันก็จะโครงเครง โครงเครงหน่อย แต่มันก็ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครดีทีเดียว ด้านล่างของสะพานสลิงนั้น จะเป็นน้ำตกเขาบรรจบไหลผ่าน ซึ่งไม่อนุญาตให้เล่นเพราะอยู่ในบริเวณเขตวัด
ถ้าอยากจะเล่นน้ำตกก็ให้ขับรถออกไปทางด้านทุ่งเพล ด้านทางที่มันมีรีสอร์ท มีโฮมสเตย์ตรงนั้นสามารถที่จะเล่นน้ำตกได้ วัดเขาบรรจบเป็นวัดที่มีความสงบมาก เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานที่หลายๆคนมาใช้ฝึกวิปัสสนา เพราะว่าบรรยากาศเงียบสงบ สะพานสลิงแขวนนี้มีชื่อว่า สะพานข้ามโอฆะสงสาร เวลาใช้ก็ต้องระมัดระวังและปฏิบัติตามป้ายด้วยนะ เขามีป้ายแขวนไว้เลย ระวังอันตราย ได้โปรดใช้สะพานด้วยความระมัดระวัง ข้ามได้ครั้งละไม่เกิน 20 คน ไม่เกิน 20 คนนี่คือว่าอยู่บนสะพานนะ
แค่พวกเราเดินเป็นกลุ่ม 5 คน เดินไปพร้อมๆกัน มันยังหย่อนๆ ยวบๆเลย ซึ่งป้ายเขาก็จะบอกว่าวัดใช้เฉพาะในการปฏิบัติธรรมเท่านั้น คือเดินข้ามฝั่งจากวัดข้ามสะพานไปฝั่งโน้น จะเป็นป่าซึ่งส่วนใหญ่พระธุดงค์จะไปปักกลดหรือมาเดินเดินจงกรม ห้ามใช้สะพานนี้เพื่อความสนุก ห้ามโยก ห้ามเขย่า ห้ามแกว่งเล่น จะเกิดอันตรายและหากเกิดอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่ง จะพลาด จะตกจากสะพาน หรืออะไรก็ตามนะ ทางวัดไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
แจ้งมาโดยคณะกรรมการวัดเขาบรรจบนะทุกคน ซึ่งตรงสะพานข้ามโอฆะสงสารก็จะอยู่ตรง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว- วัดเขาบรรจบ ถ้าเราข้ามสะพานไปฝั่งโน้นก็จะเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏแล้ว ธรรมชาติก็เพราะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏนี่แหละ จะได้ยินเสียงน้ำตกด้านล่าง ได้ยินเสียงนก ซึ่งนกจะร้องดังมาก
ถ้าเราเดินเข้าไปทางป่าฝั่งโน้น เหมือนเรากำลังบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ของนกเลยทีเดียว ส่วนตัวเราไม่ค่อยกล้าที่จะเดินข้ามสะพานไปแค่อยู่กลางสะพานก็กลัวละ อ้วนไง สะพานก็อันนิดหนึ่ง เดินไปไม่ทันไร มันก็เกวี่ยงซ้ายที ขวาทีละ แถมยังสูงจากน้ำตกอีก หลายคนอาจจะชอบตรงจุดสะพาน แต่เราไม่กล้า เรากลัวความสูง
ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวถ้าใครอยากจะพักแบบกางเต็นท์ แล้วก็เล่นน้ำตกด้วย ก็แนะนำให้ไปตรงหน่วยพิทักษ์อุทยานเขาคิชฌกูฏนะ ตรงนั้นก็จะมีที่ให้พักให้กางเต็นท์ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเราด้วย มีเต็นท์ให้เช่า มีห้องน้ำไว้บริการ ก็มีอาหารการกินด้วย ร้านอาหารริมทาง แถวๆบริเวณน้ำตกมีเยอะ ทั้งไก่ย่าง หมูปิ้ง ข้าวเหนียว ส้มตำ ลาบ น้ำตก ลูกชิ้นทอด น้ำดื่ม
แต่เราไม่รู้ว่าแม่ค้าก็น่าจะปิดร้านตอนกี่โมง ตอนที่เราไปเล่นน้ำตก ช่วงประมาณ 5 – 6 โมงเย็น ก็ยังมีขายอยู่นะ แต่หลังจาก 19:00 น. หรือ 1 ทุ่มผ่านไปแล้วเราไม่แน่ใจ เพราะว่าเราไม่ได้กางเต็นท์ค้างคืน ทางที่ดีคนที่จะไปพักค้างคืน ก็หาอาหาร ของทานเล่น น้ำดื่มต่างๆ ติดไปด้วยเลย จะได้สะดวกเวลาดึกๆดื่นๆ เดี๋ยวหิวขึ้นมาจะไม่มีอะไรทานกันทั้งคณะนะทุกคน
แต่เราคิดว่า ถ้าเอาชุดหมูกระทะ เตรียมไปให้พร้อม คงจะได้บรรยากาศดีเหลือเกิน ฟังเสียงน้ำตกไหล เสียงแมลงกลางคืน ไฟสลัวๆ ผสมไปกับเสียง ฉู่ ฉ่า ของหมูกระทะ กลิ่นกระเทียม มะนาว จากน้ำจิ้มแซ่บๆนะ โอ๊ย น้ำลายไหลเลยทีเดียว
รักทุกๆการเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ทุกๆการเดินทางมีความทรงจำเสมอ
พวกเรามีกลุ่มด้วยนะ ชื่อกลุ่ม สายชิลเมืองจัน สายลมแห่งตะวันออก