สะพานข้ามปากน้ำพังราด
แวะมาส่อง สะพานข้ามปากน้ำพังราด ซึ่งเป็นสะพานที่ข้ามระหว่างจังหวัดระยองกับจังหวัดจันทบุรี สร้างข้ามปากแม่น้ำพังราด
วันนี้ได้ผ่านมาสำรวจ สะพานข้ามปากน้ำพังราด แล้ว แบบเดินสำรวจ ได้จับราวสะพาน ได้เห็นภาพด้วยสายตาที่ใช้ขาเดิน ไม่ใส่สายตาที่อยู่บนรถ ทุกครั้งเราแค่ขี่รถผ่าน มองวิวไม่เคยจะทัน แล้วก็ไปแวะดูตรงอื่น วันนี้จะดูแม่น้ำพังราดแบบจริงๆจังๆบ้างซะที
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวัน ที่ถือว่ามีค่ามาก อันเนื่องมาจากสารถีประจำตัวหยุดงาน และ วันนี้จันทบุรีไม่มีฝนตก ตื่นนอนมาใช้ชีวิตปกติเลย อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ไปนั่งชิวๆกินกาแฟที่ร้านชาพะยอม แล้วอยู่ๆสารภีก็บอกว่า ไหนว่าจะไปซื้อรองเท้าไง กว่าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวพร้อมออกเดินทาง ก็เกือบ 11 โมงกว่าแล้ว
ตรวจดูอุปกรณ์กล้อง แบตเตอรี่ ครบแล้วก็ขี่รถคันอ้วนๆ จากจันทบุรีไปที่เซ็นทรัลระยองกันได้เลย เราใช้เส้นทางสายใน วิ่งผ่านวัดหนองแหวนเพื่อที่จะไปเซ็นทรัลระยอง ไม่ใช้ทางหลักสุขุมวิท เพราะถนนสายในบรรยากาศดีกว่านั่นเอง
แต่หลักๆแล้วคืออยากไปถ่ายรูปทางผ่านคือ สะพานข้ามปากน้ำพังราด ซึ่งติดค้างไว้ เมื่อครั้งที่แล้วตอนที่จะไปสะพานประแสร์สินธุ์ แต่มัวไปติดใจกับดอกหญ้าข้างถนนซะก่อน เลยไม่ได้ถ่ายสะพานปากน้ำพังราดเลย
สะพานที่ข้ามปากแม่น้ำไม่ได้ใหญ่โตเหมือนกับสะพานประแสร์สินธุ์ แต่ก็มีความคลาสสิคมากเลย ซึ่งสารถีของเราจอดรถไกลมาก เพราะว่าเนื่องด้วยสะพานป็นแค่ถนน 2 เลนสวนกัน จึงไม่สามารถทำการจอดรถกลางสะพานได้หรือจอดถ่ายรูปตรงส่วนไหนของสะพานได้เลย
อาจจะเป็นเพราะด้วยเหตุนี้ ก็เลยไม่มีใครลงไปจอดรถเที่ยวสักเท่าไหร่ เราต้องเดินขึ้นสะพานมาเอง ซึ่งเวลาที่เราอยู่บนรถเราจะไม่รู้เลยว่าความชันของสะพานมันมากขนาดไหน จนเราได้เดินด้วยขาอวบอ้วนของเราเอง ก็เลยรู้ว่ามันเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย
ตรง สะพานข้ามปากน้ำพังราด จะมีหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ริมแม่น้ำ เขาก็ทำกะปิขายด้วยนะถามว่ารู้ได้ยังไงว่าเขาทำกะปิขาย เพียงแต่ว่าได้กลิ่น ก็กลิ่นกะปิโชยมา ห๊อม หอม แถมมีที่ยกยอหาปลาด้วย อันใหญ่โตมากเลย ไม่รู้ใช้งานได้จริงๆรึป่าว
แล้วก็มีพวงหอยอยู่กลางแม่น้ำ ประมาณฟาร์มหอยนั่นแหละ หอยนี้เป็นหอยแมลงภู่หรือหอยนางรมก็ไม่รู้ เพราะว่ามันจมอยู่ใต้น้ำ แล้วก็ไม่มีใครให้เราถามได้เลยนอกจากคนที่เขากำลังตกปลากันอยู่ ก็ไม่อยากไปรบกวนเขาเพราะว่าหนึ่งคนก็ต้องดูคันเบ็ดเกือบ 5 – 6 คันแล้ว ถ้าเราไปชวนคุยเขาจะไม่มีสมาธิในการตกปลานะซิ เดี๋ยวหาข้อมูลอีกรอบเรื่องของหอย
ประวัติคร่าวๆ ของตำบลพังราด เราไปหามาใน Google นี่แหละ ก็ ตำบลพังราดตอนแรก ใช้คำว่า “พังราช” แต่อยู่ๆก็มาเปลี่ยนเป็น “พังราด” ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีหลักฐานแจ้งแน่ชัด เมื่อก่อน เป็นตำบล ตำบลหนึ่ง แต่พอมาอยู่ที่ปี พ.ศ. 2480
ตำบลพังราดก็ยุบรวมกันกับตำบลกองดินเสียอย่างนั้น และปีพ.ศ.2482 ก็ได้แยกออกจากตำบลกองดินอีกที ก็เลยเป็นอำเภอพังราด เดี่ยวๆ ที่ไม่ต้องถูกยุบรวมกับใครมาจนถึงปัจจุบันนี้ ตลอดทางที่เราผ่านมาก็จะเป็นที่ราบเนินเขา
ก็จะมีพวกสวนยางพารา ปลูกทุเรียน ปลูกมังคุด คนที่อยู่ติดกับทะเลก็จะมีอาชีพประมงซะเป็นส่วนใหญ่ เออใช่
มีบ่อกุ้งด้วย เวลาเราขี่ผ่านมา ก็จะมีบ่อกุ้งขุดเรียงรายอยู่ไม่ห่างจากถนนมากนัก ที่นี่เป็นตำบลเล็กๆไม่ได้ใหญ่มาก ไม่ค่อยจะมีบ้านสักเท่าไหร่
ถึงระยะทางจะอ้อมไกลมากกว่าใช้ถนนสายสุขุมวิท แต่ว่าถนนสายนี้ ขี่รถได้สบายๆ รถไม่เยอะ การจราจรไม่หนาแน่น วิวดีมาก เพียงแต่ว่าเป็นถนน 2 เลนสวนกัน แล้วก็มีทางโค้งเยอะหน่อย รวมไปถึงโค้งอันตรายที่มีแจ้งไว้ใน GPS ด้วยนะ
เขาบอกว่าโค้งนี้ที่ก่อนจะถึง สะพานข้ามปากน้ำพังราด มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายหนแล้ว ใครที่จะเลือกใช้ถนนเส้นนี้ ก็ให้ขับขี่ระมัดระวังกันด้วย แต่โดยส่วนตัวแล้วเราชอบ เวลาจะเดินทางไประยองทุกครั้ง ก็จะใช้ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศเส้นนี้ตลอด เพราะผ่านทั้ง ธรรมชาติ แล้วก็แม่น้ำ
คือเราขอให้สารถีจอดรถหลายรอบแล้ว ที่สะพานแต่เวลามาเป็นขบวน 3-4 คัน จะหาที่จอดยากเพราะว่ารถแต่ละคันก็ไม่ได้เล็กๆ รถอ้วนๆ ป้อมๆ 150 cc. ขึ้นไป มันหาที่จอดยาก เกรงใจรถคันอื่นด้วย จะมาติดเพราะพวกเราขวางทาง
แต่มาครั้งนี้เราเดินทางคันเดียว ก็เลยจอดรถได้ แต่จอดไกลอยู่พอสมควรเลยแหละ จอดตรงคอสะพานไม่ได้ กลางสะพานก็จอดไม่ได้ เราเดินขึ้นมาดีกว่า ไม่อันตราย ตอนแรกกะว่าจะให้เขาจอดกลางสะพาน ส่งเราไว้ให้ชื่นชมบรรยากาศ ถ่ายรูป ส่วนรถก็ให้ลงไปจอดด้านล่าง แต่วันนั้น มีคนปั่นจักรยาน แถมรถเยอะพอประมาณทีเดียว ก็ตรงกับวันอาทิตย์พอดี
ถ้าทุกคนอ่านแล้วอยากลงไปสำรวจ หรือแวะถ่ายรูปสวยๆที่ สะพานข้ามปากน้ำพังราด ก็แนะนำให้ไปจอดตรงร้านอาหารตรงปลายสะพาน ก็น่าจะดีเพราะว่าปลอดภัย แต่ แต่ แต่ แต่ก็ไม่รู้เขาจะยอมให้จอดหรือเปล่า ถ้าเค้าให้จอดได้ มันก็น่าจะปลอดภัยกว่าที่จะจอดริมถนน
ถ้าอยากจะจอดแบบสบายใจ ไม่ต้องเกรงใจเจ้าของร้าน แล้วแวะถ่ายรูปได้นานๆ เราแนะนำ เข้าไปทานอาหารที่ร้านเลยน่าจะดีกว่า ไม่ได้ค่าโฆษณาร้านนะ เพราะเราเองก็ยังไม่เคยไปชิมเลย แต่ก็อยากช่วยโปรโมท กระตุ้นเศรษฐกิจกัน
มาดูโปรไฟล์ของร้านกัน ไปหามาใน Google อีกเช่นเคย เป็นร้านอาหารท้องถิ่นปรุงโดยคนท้องถิ่น ตั้งอยู่ตรงปลายของจังหวัดระยองเลยบรรยากาศของเขาก็จะเป็นป่าชายเลนที่อยู่กับแม่น้ำพังราด จะได้สัมผัสไอทะเล วิถีชาวบ้านกับการออกหากุ้ง หาปู หาปลาและการเลี้ยงหอยนางรม
อ้าวถ้าอย่างนั้นพวงหอยที่เราเห็นตอนที่เรายืนอยู่ตรงกลางสะพาน ฟาร์มหอยห้อยต่องแต่งก็เป็นหอยนางรมทั้งหมดเลย สุดยอด เราชอบกินไข่เจียวหอยนางรมมากเลย แต่ว่ากินหอยนางรมสดไม่เป็น เขาบอกว่าร้านนี้เน้นรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้านที่สืบทอดมาจากรุ่นคุณปู่คุณย่า
เป็นอาหารเมนูพื้นบ้านผสมกับอาหารทะเล เขายกตัวอย่างเมนูก็คือหอยนางรมทรงเครื่อง เขาบอกว่าราคา 100 บาท ถ้าใครผ่านไปก็ต้องลองไปแวะดูว่าตอนนี้ยังจะได้ 100 บาทหรือเปล่า หรือทางร้านจะปรับราคาไปแล้วรึยัง เพราะช่วงนี้อะไร อะไรก็แพง แต่ค่าแรงมันถู๊ก ถูกจังเลย
เขาบอกว่าหอยนางรมทรงเครื่องของเขาเนี่ยมาพร้อมน้ำพริกเผา กระถิน หอมเจียว แล้วก็น้ำจิ้มที่มันเด็ดแซ่บเว่อร์ ต่อมาก็จะเป็น ยำผัก ชื่อว่าผักกระชับ มันคืออะไรผักกระชับ แต่เขาบอกว่าถ้าเป็นคนระยองจะเรียกว่า ผักกระฉับ เป็นผักพื้นเมืองของที่ระยอง ผักก็หวานกรอบ
แต่ว่าผักชนิดนี้จะมีกลิ่นเหม็นเขียว แล้วก็เฝื่อนๆนิดๆ แต่ว่าถ้าใครไม่ชอบความเหม็นเขียว ก็อย่าไปกินแบบสดๆ ลองทานแกงส้มผักกระชับแทน ติดใจในเรื่องของผักกระชับ ขอเปิด Google หาความรู้มาฝากทุกคนให้รู้จักผักกระชับ / ผักกระฉับ ไปพร้อมๆกันเลย
ได้ความมาว่า ผักกระชับเนี่ย เป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดระยองเลย ลักษณะต้นเหมือนกับต้นอ่อนทานตะวัน เป็นของขึ้นชื่อเชียว จังหวัดระยองปลูกเป็นแห่งเดียวในประเทศไทย เขาบอกว่าคุณลักษณะของผักกระชับ ถ้าดูเผินๆจะเหมือนกับผักที่เพาะจากเมล็ดทานตะวันอ่อน
รสชาติและคุณค่าของผักก็จะใกล้ๆเคียงกัน แต่ผักกระชับเนี่ยช่วยลดความดัน ลดไขมันในเส้นเลือดด้วย ถ้าผู้หญิงกินแล้ว (เขาบอกว่า) ทำให้ช่องคลอดกระชับ คุณสมบัติพาว้าวมากเลย สาวๆหลายๆคนคงคิดในใจว่าอยากไปชิมและไปซื้อเจ้าผักกระชับติดไม้
ติดมือกลับบ้านกันแล้วละซิ ซึ่งราคาของเจ้าผักกระชับเนี่ย ราคาขายปกติกิโลกรัมละ 100 บาทแต่บางเดือนถ้าผักกระชับออกน้อยก็ขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 200 บาทเลย โอ้โหแพงเอาเรื่องทีเดียววุ๊ย หลังจากที่เราอ่านเมนูของร้านอาหารแล้ว
ก็มาเจอกับคำว่า “ปูทะเลกระเทย” มันคืออะไรสงสัย เป็นคนขี้สงสัยต้องหาคำตอบ เหมือนเดิม Google ช่วยเราได้ ปูกระเทยก็คือปูตัวเมีย ที่มีการเติบโตไม่สมบูรณ์ในเพศ เขาบอกว่า ปูทะเลทุกตัว เวลาออกมาจากไข่มันจะเป็นตัวผู้ทั้งหมด
หลังจากลอกคราบครั้งแรกปูทะเลจะกลายเป็นปูกระเทย จะปิ้งใหญ่ขึ้นเป็นรูปสามเหลี่ยมพีระมิด พอลอกคราบครั้งที่ 2 นั่นแหละถึงจะรู้ว่า จะมีบางตัวที่เป็นตัวเมียและบางตัวก็ยังเป็นตัวผู้อยู่ บางตัวที่มันเจริญพันธุ์ไม่สมบูรณ์ก็จะเป็นกระเทยนั้นเอง จบที่มาของคำว่าปูกะเทยจ้า
แต่สิ่งที่ปูกระเทยมีมาทดแทนไข่ปูนั่นก็คือมันปูนั่นเอง ปูกระเทยจะมีเนื้อแน่น มันปูเยอะกว่าปูตัวผู้และตัวเมียที่เจริญพันธุ์เต็มวัยซะด้วยนะ สายซีฟู๊ดมันปูไม่ควรพลาด ปูกระเทยทะเลนะจะบอกให้ การที่เราไปส่องหาที่ยืนถ่ายรูปสวยๆริมทางที่สะพานข้ามปากแม่น้ำพังราดนั้น
ทำให้เราได้เห็นวิวทะเล วิวป่าชายเลน วิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านชาวประมง แล้วก็ยังได้ความรู้กับคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เจอในเมนูอาหารอีกด้วย ถ้าหลังจากออกพรรษาแล้ว น่าจะมีโอกาสไปแวะทานอาหารที่ร้านปลายระยอง ก็จะมาเล่าถึงเรื่องอาหารว่ารสชาติมันเด็ดเหมือนที่ได้อ่านมารึป่าว
วันนี้ก็ออกมาแอบส่อง สะพานข้ามปากน้ำพังราด เก็บภาพมาฝากทุกๆคน แล้วเราก็จะเดินทางไปต่อที่เซ็นทรัลระยอง ถ้าระหว่างทางเจออะไรดีๆ ก็จะส่องมาฝาก ถ้าภาพถ่ายของเราไม่สวยก็ต้องขออภัยด้วย เพราะว่าเราเป็นเพียงแค่คนที่ชอบแวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง วันนี้ก็ฝากที่มาของคำว่าผักกระชับและปูกะเทยไว้ด้วยจ้า ไปแล้วนะทุกคน สวัสดี
แผนที่สะพานปากน้ำพังราด
พวกเรามีกลุ่มด้วยนะ ชื่อกลุ่ม สายชิลเมืองจัน สายลมแห่งตะวันออก