เวทเทรนนิ่ง เปลี่ยนหุ่นพัง ให้สวยปังและยังช่วย ลดพุง กระชับสัดส่วน ได้
วันนี้แม่หมีจะพาไปรู้จักกับคุณครูคนสวย “ครูจุ๊บโจ่ง” ที่ใช้วิธีการ เวทเทรนนิ่ง กระชับสัดส่วน ให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม ลดหุ่น ลดสัดส่วน จนหุ่นดีเว่อร์
เปลี่ยนหุ่นสวยด้วย เวทเทรนนิ่ง เมื่อก่อนตอนที่ ครูจุ๊บโจ่งมาเรียนว่ายน้ำที่สระใหม่ ๆ ครูเป็นสาวอวบ ที่มีหุ่นสูงใหญ่มาก เราเคยคิดในใจ น้องคนนี้ถ้าตัดไขมันออก
สวยแน่นอน จนเวลาผ่านไป 4 – 5 ปี อยู่ ๆ ครูจุ๊บโจ่งลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ซึ่งผลลัพธ์มันอะเมซิ่งมาก เพราะแม่หมีเห็นครูจุ๊บโจ่งมาตั้งแต่เป็นสาวอวบสุด ๆ
ในทุก ๆ วัน เราจะเห็นครูโพสเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ไปยิมเพื่อไปเล่น เวท มีโค้ชคอยดูแลให้คำแนะนำตลอด ทั้งเรื่องออกกำลังกาย
และเรื่องอาหารการกิน ก่อนที่เราจะไปดูความเปลี่ยนแปลงของครูจุ๊บโจ่ง ว่าเปลี่ยนไปมากขนาดไหน เรามาทำความรู้กับการออกกำลังกาย
ด้วยวิธีการ เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) กันก่อนว่า คือ วิธีการอกกำลังกายแบบไหน มีประโยชน์อย่างไร ช่วยในเรื่องไหนบ้าง มารู้ไปด้วยกัน
การออกกำลังกายในรูปแบบ เวทเทรนนิ่ง คือ การออกกำลังกายประเภทหนึ่ง ที่สามารถลดน้ำหนักได้ รวมไปถึงช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญไขมัน
ให้กับร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้กับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเรา ร่างกายจะได้ออกแรงต้านกับน้ำหนัก
กล้ามเนื้อจะใช้พลังงานในการยืดและหดตัว โดยพลังงานของกล้ามเนื้อนั้น ได้มาจากการเผาผลาญไขมันในร่างกายของเรานั่นเอง เพราะฉะนั้น
ในการออกกำลังกายด้วยการเล่นเวท จึงช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันที่สะสมอยู่ภายในร่างกายเราได้แน่นอน แล้วยังช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
ร่วมถึงช่วยเพิ่มความสามารถเกี่ยวกับเรื่องการทรงตัวได้ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักคิดว่า ถ้าเรามาเล่นเวทแล้ว ตัวฉันต้องใหญ่ เป็นหมูที่แข็งแรง
แทนหุ่นดี ๆ แน่เลย อยากบอกว่า คุณสาว ๆ เข้าใจผิดอย่างมากเลย เดี๋ยวคุณรอดูหุ่นของครูจุ๊บโจ่ง แล้วจะอยากลุกขึ้นมาเวท มายกลูกเหล็กกันทีเดียว
จริง ๆ แล้ว การเวทเป็นการสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อไปกำจัดไขมันอย่างที่บอกไปแล้ว และเมื่อเรามีกล้ามเนื้อ ร่างกายของเราจะเผาผลาญไขมันได้ดี
แม้กระทั่งตอนที่เรานอนหลับ ไขมันยังถูกเผาผลาญไปเรื่อย ๆ อย่าห่วงว่าจะกลายเป็นสาวถึกกันนะ และผลดีอีกอย่างที่จะได้รับตามมาคือ
หลังจากที่ออกกำลังกายด้วยวิธีการเล่น เวทเทรนนิ่ง เราจะไม่อ้วนง่าย พวกไตรกลีเซอร์ไรด์ พวกคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่อยู่ในเลือดของเราจะลดลง
และพอเรากินอะไรเข้าไป จะถูกย่อยไวขึ้น สารอาหารจะถูกนำไปใช้ให้เป็นพลังงานได้เลย ไม่ถูกสะสมในรูปของไขมัน
แม่หมีอยากบอกทุกคนว่า อย่ากังวลไปว่าการเล่นเวท จะมีอันตรายต่อร่างกาย ถ้าเราเล่นถูกท่า ทุกวิธี เราจะไม่บาดเจ็บเลย
ส่วนใหญ่คนที่ เวทเทรนนิ่ง แล้วบาดเจ็บ จะชอบทำหลังค่อม หลังโก่ง ๆ ตอนยกลุกเหล็ก เราต้องศึกษาวิธีการเล่นก่อน เดี๋ยวนี้ Youtube มีบอก
วิธีการเล่นทุกเครื่อง ทุกอุปกรณ์ ว่าควรเล่นแบบไหน ท่าที่ถูกวิธีควรทำยังไง ระบบหายใจควรหายใจเขาตอนไหน หายใจออกตอนไหน ถ้าเราไม่อยากจ้าง
เทรนเนอร์ ควรศึกษาหาข้อมูลเสียหน่อยนะ แม่หมีรับรองว่า การออกกำลังกายด้วยวิธีการ เวทเทรนนิ่ง ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพแน่นอน
เรามาเข้าเรื่องของ คุณครูจุ๊บโจ่ง ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการ ลดน้ำหนัก ด้วยวิธี เวทเทรนนิ่ง กัน
ย้อนหลังไปเมื่อปีที่แล้วโน้นกัน ครูจุ๊บโจ่งกับน้ำหนักของร่างกายที่ชั่งแล้วหนักถึง 101 กิโลกรัม ครูบอกว่า ตอนนั้นตกใจมาก ไม่คิดว่าจะหนักได้ถึงขนาดนี้ เหมือนช้างแม่พันธุ์ดี ๆ เชียว
แป๊บแรกที่คิดถึงคือ ยาลดความอ้วนกับอาหารเสริม เพราะครูขี้เกียจออกกำลังกายมาก หลังจากกินไปแล้ว น้ำหนักลดลงมาจริง ๆ
มาหยุดอยู่ที่ 95 – 98 กิโลกรัม ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ในระดับนี้ตลอด ครูจุ๊บโจ่งกินยาลดความอ้วน อาหารเสริมต่อไปเรื่อย ๆ จนวันหนึ่ง ร่างกายถึงจุดที่ไม่ไหว
ครูบอกว่า ครูช็อตจากฤิทธิ์ยา มีอาการลิ้นแข็ง ปากชา มือเท้าชา ตัวเกร็งไปหมด ถูกหามส่งโรงพยาบาลโดยด่วน โชคดีที่ครูไม่เป็นอะไรมาก
ครูจึงสัญญากับตัวเองว่า ให้ตายยังไง จะไม่กลับไปยุ่ง ไปวุ่นวายกับยาพวกนี้เลย และเหตุการณ์หลังจากหยุดยาลดความอ้วน คือ ครูจุ๊บโจ่ง
น้ำหนักขึ้น จากภาวะอาการที่เรา ๆ เรียกกันว่า โยโย่เอ็ฟเฟค น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว ของน้ำหนักที่ลดลงไป ช่วงนั้นได้แต่ทำใจ ต้องยอมรับ
ผลกระทบจากเจ้ายาและอาหารเสริมต่าง ๆ จนวันหนึ่ง ครูเล่น Facebook อยู่ เลื่อนไป เลื่อนมา มาเจอเทรนเนอร์คนหนึ่ง ที่สอนเกี่ยวกับ
การ ลดน้ำหนัก ด้วยวิธีการเล่นเวท จึงกดเข้าไปหาข้อมูล ซึ่งเทรนเนอร์คนนี้ มีลูกศิษย์หลายคน ที่ยืนยันได้ว่า ช่วยลดไขมันในร่างกาย และทำให้
สาว ๆ หลายคนหุ่นดีและสุขภาพดีได้ ครูจุ๊บโจ่งบอกว่า คนนี้แหละพี่ ที่เค้าจะช่วยให้หนูผอมลงได้ แล้วต้องย้อนกลับมาคุยกับตัวเองว่า จะสู้ไหวมั้ย
พร้อมแล้วหรือยัง ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง พร้อมแล้วหรือยัง ที่จะยอมงดของโปรด งดของกินหลาย ๆ อย่างที่เราชอบ หลังจากใช้เวลาตัดสินใจอยู่พักใหญ่
จึงตอบตัวเองว่า พร้อมแล้ว แต่ขอเวลาก่อน 1 เดือน ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ครูตระเวนกิน ของที่อยากกินทุกอย่างตลอดระยะเวลา 1 เดือน
หลังจากนั้น จึงทักไปหาเทรนเนอร์ทันที จัดตารางการเข้าเทรนในยิม ในวันแรกที่เข้ายิม มาพร้อมกับสัดส่วน 46 – 38 – 47 นิ้ว กับน้ำหนัก 95 กิโลกรัม
เทรนเนอร์ มีการฝึกด้วยการใช้ เวทเทรนนิ่ง และคาดิโอ ให้ออกกำลังกาย ใช้เวลารวม ๆ กัน วันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง ในช่วงระหว่างที่ลงครอสกับเทรนเนอร์นั้น
ครูบอกว่ามีการคุมอาหารและ ลด โซเดียม ด้วย โดยเครื่องปรุงรสทุกอย่างขอเป็นประเภทที่ลดโซเดียมลง ดังนั้น ระหว่างที่ครูลงครอสนี้ จะได้พัฒนาฝีมือ
ในการทำอาหารไปด้วย ตราบใดที่เรายังกินอาหารตามสั่งอยู่ เราไม่สามารถคุมได้แน่นอน โดยกินทุกอย่างปกติ แบ่งออกเป็น มื้อหลัก 3 มื้อ และมื้อย่อย 2 มื้อ
ครูจุ๊บโจ่งทำแบบนี้ไปทุก ๆ วัน ในระยะเวลา 1 เดือนแรกนั้น น้ำหนักลดลง 3 กิโลกรัม สัดส่วนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ครูบอกว่า ครูดีใจมาก เป็นความภูมิใจและกลายเป็น
กำลังใจที่อยากจะลดหุ่นด้วยการออกกำลังกายต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเวท หรือการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ จนจบครอสในการเรียนรู้
กับเทรนเนอร์ ในระยะเวลา 6 เดือน น้ำหนักของครูลดลงไปเยอะมาก ปัจจุบันครูจุ๊บโจ่งหนัก 66 กิโลกรัม สัดส่วนเหลือเพียง 36 – 30 – 37 นิ้ว
หลังจากจบครอสไปแล้ว ครูยังขยันออกกำลังกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ แม้โควิด – 19 จะมาเยือนครูก็ไม่หนี ออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน คุมอาหาร
อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาหุ่นและเพื่อสุขภาพที่ดี เห็นกันรึยังล่ะว่า แม่หมีไม่ได้โกหกนะ ว่าการออกกำลังกายด้วย เวทเทรนนิ่ง ช่วยให้ไขมันในร่างกาย
ของเราหายไปได้จริง ๆ และไม่ได้เป็นหุ่นล่ำแบบนักล้ามอีกด้วย นับถือครูจุ๊บโจ่งจากใจจริง ทุกอย่างไม่เกินความสามารถ ถ้าเราตั้งใจทำอย่างเต็มที่
แม่หมียังเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คนที่จะลดหุ่น ลดไขมัน เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีนะ อยากชวนทุกคนมาเปลี่ยนตัวเองไปด้วยกัน
เพิ่มเติม สำหรับใครที่อยากผ่อนคลาย อยากออกไปเที่ยว แวะเข้าไปส่องเพจ ออกเที่ยว-ก่อนที่จะยืนเยี่ยวไม่ไหว ได้นะ เผื่อมีที่เที่ยว ที่โดนใจคุณ