แม่ผ่าคลอด กับหลายเหตุผลที่ไม่สามารถคลอดเองได้
พอดีมีน้องคนหนึ่งที่แม่หมีรู้จัก พึ่งคลอดน้อง และเข้าสู่ทีม แม่ผ่าคลอด สำหรับตัวเราเองผ่าคลอดเช่นกัน หลาย ๆ คนจะตั้งคำถาม ทำไมไม่คลอดเอง
คลอดเองดีกว่าแผลหายง่ายกว่า คลอดเองลูกจะแข็งแรงนะ หลาย ๆ คำถามที่หลั่งไหลมา สำหรับตัวเราเอง การที่ต้องผ่าคลอดไม่สามารถคลอดเองได้
เนื่องมาจากเรามีเนื้องอกในมดลูก ที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งโตมาพร้อม ๆ กับลูกในท้องของแม่หมีเลย ตอนที่น้องอายุครรภ์ 3 เดือน เนื้องอกของขนาดเท่านิ้วก้อย
พอเดือนที่ 4 ขนาดเท่านิ้วโป้ง เดือนที่ 5 เท่ากำปั้น พอเดือนที่ 8 มาก เวลาน้องพลิกตัว น้องดิ้น น้องขยับแขน – ขา เราจะรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ เพราะน้องไปโดนเนื้องอก
และวันที่ผ่าคลอดพร้อมตัดเนื้องอกออกมา ขนาดเนื้องอกพอ ๆ กับหัวลูกเราเลย ดีไม่ดีใหญ่กว่าอีก คุณหมอตัดแช่มาในถุงน้ำเกลือ ลักษณะเนื้องอกของเรา
เหมือนก้อนเลือดหมูที่ขายในตลอดเลย แบบนั้นเลย และเนื้องอกนั้น คุณหมอนำไปตรวจเพื่อหาเชื้อมะเร็ง และขอนำไปศึกษาต่อ ซึ่งเราตกใจกับขนาดที่เห็นจริง ๆ
ด้วยเหตุผลนี้เอง เราจึงอยู่ทีม แม่ผ่าคลอด นั่นเอง เรามาดูสาเหตุกันดีกว่า ว่าทำไมคุณแม่หลาย ๆ คน ถึงต้องผ่าคลอด โดยไม่สามารถทำการคลอดแบบปกติได้
แม่ผ่าคลอด กับสาเหตุของการต้องผ่าท้องทำคลอด
- เจ้าตัวเล็กในครรภ์ อยู่ในท่าที่ผิดปกติ อย่างเช่น อยู่ในท่าเอาก้นลง แทนที่จะต้องเอาหัวลงพร้อมคลอด หรือ ตัวอยู่ในท่านอนขวาง ท่าผิดปกติแบบนี้ไม่สามารถคลอดเองได้ เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ทั้งคุณแม่และเจ้าตัวเล็กนั่นเอง
- มีภาวะของรกเกาะต่ำ คือ รกปกคลุมอยู่บริเวณปากมดลูก บริเวณที่เป็นช่องทางคลอด จึงไม่สามารถคลอดเองได้ เพราะจะทำให้เสียเลือดมากเกินไป เป็นอันตรายต่อคุณแม่และเจ้าตัวเล็กได้
- เจ้าตัวเล็กในครรภ์มีอาการขาดออกซิเจน ตรวจพบได้จากการที่เสียงหัวใจของเจ้าตัวเล็กเต้นช้าลง ดังนั้นคุณแม่ไม่สามารถจะคลอดแบบปกติได้ เพราะต้องรีบให้การช่วยเหลือเจ้าตัวเล็กในครรภ์อย่างรวดเร็วที่สุด
- เจ้าตัวเล็กนั้นมีภาวะสายสะดือย้อย ทำให้ไม่สามารถคลอดเองได้ตามปกติ
- คุณแม่มีการติดเชื้อเริม ที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ในช่วงใกล้คลอด
- คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษชนิดรุนแรงหรือคุณแม่เป็นโรคหัวใจ ที่ไม่สามารถแบ่งคลอดได้
- เจ้าตัวเล็กในครรภ์นั้นมีขนาดหัวใหญ่หรือตัวใหญ่กว่ากระดูกเชิงกรานของคุณแม่
- เจ้าตัวเล็กเป็นแฝด ไม่ว่าจะแฝด 2 แฝด 2 หรือมากกว่านั้น คุณหมอลงมติว่าคุณแม่ไม่สามารถคลอดเองได้ เนื่องจากอาจจะเสียเลือดมากเกินไป
- ในกรณีของแม่หมีคือ มีการขวางกั้นของช่องทางคลอด ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอดดบริเวณปากช่องคลอด หรือ มีเนื้องอกในมดลูก
- คุณแม่มีแผลผ่าตัดที่มดลูกมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเคยผ่าตัดคลอดเจ้าตัวเล็กมาก่อนแล้ว หรือมีการผ่าตัดที่มดลุกมาก่อน ไม่สามารถคลอดปกติได้ เนื่องจากผนังมดลูกนั้นมีแผล ทำให้มีความอ่อนแอถ้าจะต้องเจ็บคลอด อาจทำให้เกิดรอยแตก ที่ผนังมดลูก ทำให้เจ้าตัวเล็กและคุณแม่เป็นอันตรายได้
ดมยาสลบ กับ บล็อคหลัง คุณแม่จะเลือกวิธีไหน
- การผ่าคลอดแบบดมยาสลบ การดมยาสลบ คือ การใส่ท่อช่วยหายใจเข้าไปในหลอดลม คุณแม่จะไม่รู้สึกตัวเลยในขณะที่่คุณหมอกำลังทำการผ่าตัด
ข้อดูคือ ระหว่างที่ผ่าคลอดนั้น คุณแม่ไม่รู้สึกตัว ทำให้ไม่มีภาวะเครียด ไม่มีความกลัวระหว่างผ่า รวมไปถึง คุณหมอที่เราเรียกกันว่า
วิสัญญีแพทย์จะคอยควบคุมการหายใจของคุณแม่ขณะหลับ และระบบไหลเวียนได้อย่างเหมาะสม ข้อเสียคือ ยาสลบอาจจะไปกดทับ
การหายใจของเจ้าตัวเล็กได้ และมีความเสี่ยงต่อคุณแม่ อาจจะมีการสำลักเอาเศษอาหารจากกระเพาะเข้าไปในปอดได้ รวมไปถึง
มีความระคายคอ เจ็บคอ ไอ เนื่องจากการสอดท่อหายใจนั่นเอง ยาดมสลบนั้นอาจจะส่งผลให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว หลังผ่าคลอดไปแล้ว
- การผ่าคลอดแบบบล็อกหลัง การบล็อกหลังหรือการฉีดยาชาเข้าบริเวณไขสันหลัง โดยจะมีการแทงเข็มและฉีดยาชาเข้าไปในกระดูกสันหลังช่วงระดับเอว
ทำให้ส่วนล่างของร่างกายตั้งแต่เอว ช่วงสะดือลงไปจนถึงปลายเท้านั้นหมดความรู้สึก ข้อดีคือ คุณแม่จะรู้สึกตัว แต่ไม่เจ็บปวด ซึ่งตัวแม่หมีเอง ใช้วิธีนี้ในการผ่าคลอด
คุณหมอจะทำการเช็คว่าขาเราชาหรือยัง ใช้เวลาอยู่พักใหญ่เลยทีเดียวกว่าจะชา บรรยากาศในห้องผ่าตัดตอนที่ถูกเข็นนำตัวเข้าไป รู้สึกเครียด กลัวมาก
ยอมรับเลยว่ากลัวจับใจ ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีสามีอยู่ข้าง ๆ มีแต่คนแปลกหน้ารอบตัวเรา จนคุณหมอที่เราฝากครรภ์ด้วยและจะเป็นคนผ่าทำคลอดให้เรา เดินเข้ามา
บรรยากาศเปลี่ยนไป คุณหมอชวนคุยและร้องเพลง บุรุษพยาบาลค่อย ๆ เดินมาข้าง ๆ ถามว่าถ้าให้โก่งหลัง งอตัวเข้ามาเองไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวผมต้องช่วยจับนะครับ
และเป็นการอธิบายขั้นตอนในการทำคลอดให้กับเรา และผ่าตัดเอาเนื้องอกออกด้วย คุณหมอเตรียมถุงเลือดสำรองไว้ให้ในกรณีฉุกเฉิน ตอนที่จะฉีดยาหรือบล็อกหลัง
เป็นอะไรที่อึดอัดมาก หายใจไม่ออกเพราะบุรุษพยาบาลช่วยเราในการโก่งหลัง (ทำตัวให้คล้าย ๆ ลูกบอลกลม) ตอนลงเข็ม เจ็บจี๊ดและปวดพอสมควร พักใหญ่
เรามีความรู้สึกอยากจะอาเจียน ทั้ง ๆ ที่งดอาหารมาเรียบร้อย ต้องรีบแจ้งคุณหมอทันที คุณหมอทำการช่วยกันขยับตัวเราที่กำลังเริ่มชา จัดท่านอนให้เราใหม่
จนเราหายใจสะดวกขึ้น คุณหมอถามว่า ถ้าระหว่างหมอผ่า แม่จะดูไหมครับสามารถดูได้ แต่ถ้ากลัวเลือดหรือไม่กล้าดู หมดจะปิดผ้าให้ครับ แม่หมีรีบตอบทันที
ไม่ดูค่ะ แม่ไม่ได้กลัวเลือด แต่ถ้าแม่ดู แม่คงถามหมอตลอดเวลาว่า ทำอะไรอยู่คะ นั่นคืออะไรคะ แล้วจะยังไงต่อคะ แม่หมีคงถามหมอตลอดเวลา เพราะความ
อยากรู้อยากเห็นมีเยอะ กลัวหมอปวดหัวกับคุณแม่ 100 คำถาม และแล้วการผ่าทำคลอดผ่านไปด้วยดี เราได้เจ้าตัวเล็กเป็นผู้หญิง ระหว่างที่เจ้าแสบออกมา
สู่โลกภายนอก ได้ยินเสียงแค่ แอ้ สั้น ๆ เท่านั้นเอง พอนางพยาบาลพาน้องไปอาบน้ำล้างตัว เจ้าแสบหลับ หมอกับพยาบาลหัวเราะใหญ่เลย หมอบอกหลับตั้งแต่
ทำคลอด จนออกมายังหลับต่อไม่ตื่นมาโวยวาย พยาบาลบอกว่า สงสัยจะเลี้ยงง่าย น่าชัง บอกเลยนะ พวกคุณคิดผิด เด็กหญิงขี้เซาในวันนั้น เป็นเด็กแสบในวันนี้
ข้อเสียคือ เหมือนคนไร้ขาอยู่พักใหญ่ และที่สำคัญนะ คุณแม่ที่บล็อกหลังส่วนใหญ่จะมีอาการที่ฉี่ไม่ออก ถ้าเราไม่ฉี่ในเวลา 12 ชั่วโมง นางพยาบาลจะมาทำการสวน
สายปัสสาวะช่วย แต่แม่หมีรอดตัวไป เพราะหลังจากที่อนุญาตให้กินน้ำได้ เราเป็นคนกินน้ำเยอะเป็นปกติ เลยค่อย ๆ จิบไปเรื่อย ๆ น้ำขิงอุ่น ๆ ชงดื่มเรื่อย ๆ ไม่นานปวดฉี่
หลังจากผ่านไป คุณพยาบาลจะมาให้เราเดิน ให้เราเคลื่อนไหว ป้องกันการเกิดผังผืดที่แผลผ่า ซึ่งเราไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ เจ็บแผลแต่เ่ดินได้ เดินไปหาลูกสบาย ๆ
ทีม แม่ผ่าคลอด ต้องสู้ ต้องสตรองนะ ไม่งั้นถ้ามีผังผืดอาจจะมีปัญหาสุขภาพในระยะยาว นี่เป็นประสบการณ์ในการผ่าคลอดของแม่หมีเอง ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
แม่ผ่าคลอด ควรดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไร
ในกรณีที่เราผ่าคลอดทางหน้าท้อง หลังจากที่เย็บแผล และกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว เรามีวิธีการดูแลตัวเองตัวเองที่มีแผลเย็บยาว ๆ ที่อยู่พุงมาฝากเพื่อน ๆ จ้า
- ก่อนที่เราจะเอามือมาสัมผัสกับแผลผ่านั้น ควรล้างมือให้สะอาดและเช็ดมือให้แห้งทุกครั้ง
- คุณแม่ควรใส่ใจในความสะอาดของร่างกาย ต้องหมั่นล้างแผลอย่างสม่ำเสมอ
- เมื่อทำความสะอาด ล้างแผลแล้ว ควรซับแผลให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
- คุณแม่หลายคนเจอปัญหาเรื่องปลายไหมเย็บแผลมันโผล่ออกมา ควรแจ้งหมอให้จัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่มันจะมาเกี่ยวเสื้อผ้าและทำให้แผลเราเจ็บได้
- เวลาอาบน้ำ ไม่ควรถูกสบู่ลงบนแผลโดยตรง และควรใช้สบู่ของเด็ก ในการอาบน้ำช่วงที่มียังไม่ได้ตัดไหม
- ควรใส่เสื้อผ้าที่สบาย ๆ ไม่รัดแน่ เพื่อป้องกันการไปกดทับหรือเสียดสีบริเวณแผล
- ควรดูตรงบริเวณรอยพับของชั้นพุงเหนือแผลด้วยว่า เราเช็ดแห้งดีหรือยัง หากมีเหงื่อออกควรซับไม่ควรปล่อยให้ชื้นนะ
- บางคนมีอาการ แผลมีรอยแดง และมีไข้ขึ้น นั่นคือ แผลติดเชื้อนะ คุณแม่รีบไปหาหมอโดยด่วน
- เวลาคันแผลอย่าเกานะ เพราะเรานี่เกามาแล้ว จนแผลเป็นคีลอยด์เลย ให้หาน้ำมันมะพร้าว หรือพวกวิตามิน E มาทาแผล ให้ผิวหนังบริเวณนั้นชุ่มชื้น
- คุณแม่ไม่ควรยกของหนัก ในช่วง 1 – 2 เดือน หลังจากผ่าคลอด
และนี้คือสาเหตุการผ่าคลอด วิธีการผ่าคลอด และ การดูแลแผลผ่าคลอด ที่เราทีม แม่ผ่าคลอด เอามาฝากเพื่อน ๆ ที่กำลังมีความวิตกกังวล ว่าการผ่าคลอดน่ากลัว
จริง ๆ แล้วเราเองกังวลมากเช่นกัน เพราะเรามีเนื้องอกที่โตวันโตคือน โตดีกว่าลูกในท้องของเราเสียอีก แต่เราผ่าคลอดและผ่าตัดเอาเนื้องอกออกมาได้ ลูกเราปลอดภัย
ตัวเราเองปลอดภัย แข็งแรง แม่ผ่าคลอด อย่าไปกังวลใจนะ เดี๋ยวเจ้าตัวเล็กในท้องจะคิ้วย่นและรู้สึกไม่สบายใจตามเราไปด้วย ทุกอย่างต้องผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขอให้คุณแม่
ที่กำลังจะผ่าคลอดทุกคนปลอดภัยและขอให้เจ้าตัวเล็กเป็นเด็กที่มีสุขภาพดี มีร่างกายแข็งแรง น่าเอ็นดูกันทุกคนเลยนะ แม่หมีเป็นกำลังใจให้ทุกคนเลย ช่วงนี้โรคฮิต ยังฮิตกันไม่เลิก
ในหลาย ๆ จังหวัดยอดคนติดทะลุ 1 หมื่นกันไปแล้ว รักษาสุขภาพให้ดีนะทุกคน แล้วพบกันใหม่ มารอดูกันว่า แม่หมีจะเอาเรื่องอะไรมาเล่าให้ฟังอีก Bye Bye
ที่มา