แสนปิติ สิทธิพันธุ์
จากประเด็นการเมืองอันร้อนแรงของ นาย แสนปิติ สิทธิพันธุ์ ได้โพสต์ข้อความว่า นายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดต ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 ไม่ได้เป็นนายกหรอก
การโพสต์เรื่องการเมืองนี้ เกิดขึ้นในอินสตาแกรมส่วนตัว พูดถึงเรื่อง ให้พรรคก้าวไกล เสียสละให้พรรคเพื่อไทย ถ้าตราบใตที่ยังบ่นเรื่องสังคมและกฏหมาย
ประเทยไทยจะไม่สามารถเป็นเสือตัวที่ 5 ได้อย่างแน่นอน ควรให้พรรคเพื่อไทยนำประเทศไทยไปสู่อนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขมาตรา 272 จะไม่เกิดขึ้น,
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่มีทางได้เป็นนายกรัฐมนตรี, หากคุณยังดันทุรังโหวตนายกฯ อีกครั้ง ยังไงคุณก็ไม่มีทางขนะ, การเลือกตั้งในครั้งหน้า
ถ้าคุณทำได้เหมือนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2548 ซึ่งถือเป็น 65% ของคะแนนโหวต, นโยบายเศรษฐกิจที่เป็นไปไม่ได้, สรุปแล้ว ไม่มีใครอยากให้นายพิธารับผิดชอบในเรื่องใด ๆ ประมาณนี้
ประวัติ แสนปิติ สิทธิพันธุ์
ชื่อ: แสนปิติ สิทธิพันธุ์
ชื่อเล่น: แสนดี
อายุ: ปัจจุบัน 23 ปี
การศึกษา: สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Washington สหรัฐอเมริกา
บิดา: นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน)
มารดา: นางปรมินทร์ทิยา สิทธิพันธุ์
IG: thesandmans20
แสนดี ได้มีภาวะการบกพร่องทางการได้ยินมาตั้งแต่เกิด อายุ 2 – 3 ขวบ เค้าต้องอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อเข้ารับการผ่าตัด เพื่อใส่ประสาทหูเทียม
การผ่าตัดในครั้งนั้นทำให้เค้าสามารถใช้ประสาทหูเทียมในการสื่อสารชีวิตประจำวันได้ เค้ากลับมาเมืองไทยในช่วงของการเลือกตั้ง เปิดตัวเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย
อาจารย์ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พูดถึงลูกชาย
ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ โฟนอิน พูดคุยถึงกรณีดราม่าของลูกชาย นายแสนดี แสนปิติ อาจารย์ชัชชาติได้บอกว่า ตนเองนั้นไม่มีอินสตาแกรม แต่มีคนแคปโพสต์ส่งเรื่องนี้มาให้ดู
คนบอกว่าแสนดีโพสต์ค่อยข้างรุนแรงมาก ตนเองได้บอกลูกไปว่า อย่าโพสต์เรื่องการเมืองเลยน่าจะดีกว่า ให้ใจเย็น ๆ ลงหน่อย อย่างไรพ่อก็ยังคอยซับพาร์ตอยู่
อาจารย์ชัชชาติยังบอกอีกว่า แสนดีอายุ 23 ปีแล้ว ไม่มีการจะมาอ้างว่ายังเป็นเด็ก และตัวอาจารย์เองไม่เห็นด้วยกับทุกอย่างที่ลูกได้โพสต์ลงไปเลย
อย่างพวกคำพูดที่ไม่เหมาะสม อยากให้โพสต์เรื่องที่สร้างสรรค์มากกว่าโพสต์เรื่องของคนอื่น เรื่องการเมืองอาจจะต้องคุยกัน ซึ่งอาจารย์บอกว่า ช่วงหลัง ๆ มานี้ไม่ค่อยได้มีเวลาคุยกันมากนัก
ตนมีส่วนผิดที่ไม่ค่อยได้คุยกับลูก หลังจากเกิดกรณีทัวร์ส้มลง อาจารย์ได้ไลน์หาแสนดี บอกเกี่ยวกับเรื่องการเมืองไม่ควรโพสต์ หากรู้ว่าอะไรผิด
ถ้าผิดแล้วควรขอโทษ เขาเป็นผู้ใหญ่ ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ต้องทำให้รอบคอบกว่านี้ ทุกคำพูดมันเป็นนายเรา สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือกระทบจากการกระทำ
ถ้าเราไม่รอบคอบมันก็มีผลกลับมา มันเป็นบทเรียน ให้เขาเรียนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น สุดท้ายแล้วแสนดีได้โพสต์ขอโทษ โดยที่ไม่ได้ร้องขอ และแสนดีอ่านภาษาไทยไม่ออกด้วย ดังนั้นต้องโพสต์เป็นภาษาอังกฤษ
ในวันที่ 17 ก.ค. 2566 นายแสนปิติ ได้โพสต์ข้อความบน Facebook โดยนายแสนดีได้โพสต์ประมาณว่า ขออภัยอย่างจริงใจ ต่อการแสดความคิดเห็นในเรื่องทางการเมือง
เสียใจต่อความรู้สึกที่กระทบกระเทือนต่อสาธารณชน เสียใจต่อการกระทำของตัวเอง โดยเค้านั้นบอกว่าไม่ได้เกลียดชังฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลใดเลย ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ
ขอโทษในการใช้คำพูดที่หยาบคายในการโพสต์ โดยยอมรับว่า สิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น ทำให้เกิดความเจ็บปวดและความรู้สึกเกลียดชังที่ประเมินไม่ได้
ล่าสุด ในอินสตาแกรมของแสนดี ลบรูปทิ้งหมดแล้ว เหลือเพียงรูปสีดำที่มี ข้อความขอโทษอย่างจริงใจ พร้อมคำอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น หลงเหลืออยู่