ไขมันพอกตับ ภัยเงียบที่น่ากลัว โรคฮิตของคนยุคนี้
เพื่อน ๆ รู้จักภาวะ ไขมันพอกตับ กันมั้ย ก่อนหน้านี้แม่หมีเคยเล่าไปแล้วว่า ตัวเองเป็นคนที่นอนกรนหนักมาก และมีภาวะหยุดหายใจระหว่างหลับ
ทำให้เรามีความรู้สึกกลัวตายจากโรคที่ชาวบ้านเรียกว่า ไหลตาย จนทำให้ต้องปฏิวัติตัวเอง ลุกขึ้นมาออกกำลังกายและเรียนรู้เรื่องวิธีการคุมอาหาร
เพื่อช่วยในการลดไขมัน ลดน้ำหนัก นอกจากอาการนอนกรนและหยุดหายใจแล้ว แม่หมียังตรวจเจออีกหลายโรค รวมไปถึง ไขมันพอกตับ ด้วย
มันเป็นภัยเงียบที่เราไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็น ถ้าปล่อยไว้ให้เป็นเนิ่นนาน รู้ตัวอีกทีอาจเป็นโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับได้เลยนะ นี่แหละคือจุดเปลี่ยนของชีวิตเราเลยทีเดียว
เดินเพื่อสุขภาพ ใครวิ่งไม่ไหว มาทดลองเดินเรื่อย ๆ ไปพร้อมกับเราได้เลย
ทำไมถึงเกิด ไขมันพอกตับ
สรุปง่าย ๆ มันคือภาวะที่ไขมันเข้าไปแทรกตัวอยู่ในเซลล์ของตับนั่นเอง ถ้าเรามีไขมันแทรกอยู่ในตับ 5 – 10 % ของน้ำหนักตับ ทางการแพทย์จะถือว่าเราเป็นโรคนี้
ซึ่งมันไม่ได้ใช้เวลาในการเป็นแป๊บเดียวไง โรคแบบนี้มันค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ทำให้ตับของเราเกิดการอักเสบ ทำให้เซลล์ตับของเราตาย และเกิดพังผืดในตับอีก
มีหลาย ๆ คนงงว่าตัวเองไม่ได้ดื่มเหล้า เอ้าทำไมหมอว่าฉันเป็นโรคตับแข็ง ไม่จำเป็นต้องดื่มเหล้าหรอก กินไขมันเลวเยอะและสะสมมากไป เป็นตับแข็งได้เช่นกัน
และถ้ามายืนในจุดของภาวะตับแข็งแล้ว คุณหมอไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาหรือวิธีทางการแพทย์ใด ๆ คุณหมอจะให้ผู้ป่วยคุมอาหาร เพื่อลดปริมาณไขมันในตับนั่นเอง
จริง ๆ แล้วเป็นโรคฮิตที่หลาย ๆ คนเป็นไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ เพราะโรคนี้ไม่ค่อยแสดงอาการจนกว่าจะเป็นหนักมากแล้ว ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดโรคคือ การกินที่ไม่ดี
ไม่ว่าจะเป็นอาหารมัน ๆ อาหารประเภททอด หรือ Junk Food ที่หาทานได้ง่าย ๆ รวมไปถึงเครื่องดื่มมึนเมา ระบบเผาผลาญพัง และขาดการออกกำลังกายนั่นเอง
สาเหตุของการเกิด ไขมันพอกตับ
ตามชื่ออาการเลย ไขมันเป็นตัวตั้งตัวตีไงล่ะทุกคน เมื่อร่างกายสะสมไขมันเลวไปเยอะ ๆ มากเกินความจำเป็น ระบบเผาผลาญไม่ดี เตาเผาในร่างกายของเราห่วย
ภาวะดื้ออินซูลิน ต่อให้กินไปนิดเดียว ยังไงก็อ้วน ไขมันส่วนเกินต่าง ๆ จะไปสะสมปะปนอยู่ในเซลล์ของตับ และ Boom !! กลายเป็น ภาวะ ไขมันพอกตับ นั่นเอง
นอกจากการกินอาหารที่ไม่คุมเลย อันนั้นอร่อย อันนี้อร่อย ไขมันสูงใครเตือนฉันยังกินเคี้ยวตุ้ย ๆ (แม่หมีผ่านจุดกินแหลกมาแล้ว) แต่ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกนะ
อย่างเช่น โรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม โรคอ้วน โรคเบาหวาน การดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป และเกิดจากผลข้างเคียงของการใช้ยาอย่างพวก ทาม๊อกซิเฟน แทลเลียม เป็นต้น
เมนูอาหารคลีน ทำง่าย ๆ สไตล์เด็กหอ อยู่ท้อง อิ่มนาน ได้สารอาหารครบถ้วน
กลุ่มเสี่ยง
- ผู้ชายที่มีรอบเอวเกิน 40 นิ้ว ผู้หญิงที่มีรอบเอวเกิน 35 นิ้ว
- คนที่ตรวจพบว่ามีไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- คนที่มีไขมันดี (HDL) ต่ำ ผู้ชายน้อยกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ผู้หญิงน้อยกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ผู้ป่วยเบาหวาน หรือคนที่ตรวจพบว่ามีน้ำตาลในเลือดมากกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- คนที่มีความดันเลือดสูง 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป
- กลุ่มเด็กที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน หรือปัจจัยด้านพันธุกรรม เสี่ยงเป็นได้เช่นกัน
ไขมันพอกตับ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
- ประเภทที่ 1 เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้ตับนั้นไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ และทำให้เกิดการสะสมของไขมันที่ตับนั่นเอง
- ประเภทที่ 2 ภาวะที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญ อย่างเช่น คนที่เป็นโรคเบาหวาน คนที่เป็นโรคอ้วน คนที่มีไขมันในเลือดสูง อาการพวกนี้จะทำให้เกิดไขมันสะสมอยู่ที่ตับได้เช่นกัน
เอ๊ะ ฉันเป็นรึยัง สังเกตยังไง
อย่างที่บอกนะภาวะนี้เป็นภัยเงียบที่ค่อย ๆ คืบคลานมาในชีวิต โดยหลายคนที่เป็นมักไม่ค่อยรู้ตัวกันหรอก บอกเลย บางคนรู้อีกที ตอนไปตรวจสุขภาพประจำปี อย่างแม่หมีเองรู้แรก ๆ เลย เราจึงปรับเปลี่ยนทันก่อนที่จะไประยะ 2 ระยะ 3
ระยะที่ 1 เป็นช่วงที่ไขมันกำลังเริ่มไปสะสมอยู่ในเซลล์ของตับ แต่ยังไม่แสดงอาการอักเสบหรือมีพังผืด
ระยะที่ 2 เป็นระยะที่เริ่มเกิดการอักเสบของตับแล้ว ถ้าปล่อยผ่านไปเรื่อย ๆ ไม่ได้รับการรักษา เกินกว่า 6 เดือน จะมีอาการที่เรียกว่า ตับอักเสบเรื้อรัง
ระยะที่ 3 การอักเสบที่รุนแรงจนเกิดเป็นพังผืดสะสมอยู่ในตับ เซลล์ของตับจะค่อย ๆ ถูกทำลายไป และพังผืดจะเข้าไปแทรกอยู่แทน
ระยะที่ 4 เมื่อเซลล์ตับถูกทำลายไปมากเกินไป จะทำให้เกิดตับแข็งและถ้าทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษาจะเสี่ยงมากต่อการเป็นมะเร็งตับ
อาการที่พบบ่อย หลังจากไขมันไปสะสมอยู่จนตับอักเสบแล้ว คือ จะมีอาการอ่อนเปลี้ยง เพลียแรง เหนื่อยง่าย แรงน้อย อารมณ์ประหนึ่ง
คนอกหักไม่อยากทำไร เพราะมันล้าเหนื่อยเพลีย มีความไม่ค่อยสบายท้องไส้ซักเท่าไหร่ ไม่หิว ไม่อยากกิน ความอยากอาหารที่เคยมี
จะหายไป คลื่นไส้ มึน ๆ งง ๆ น้ำหนักตัวค่อย ๆ ลดลง บางคนไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคอะไร คิดว่าดีเสียอีกน้ำหนักตัวลดลง เพราะอยู่ ๆ ดันเบื่ออาหาร
ไม่กินเก่งเหมือนเมื่อก่อน เลยไม่ได้สนใจ ปล่อยผ่านคิดว่าฉันน้ำหนักลง ผอมแน่นอน แต่ป่าวเลย อาการพวกนี้เป็นการแสดงออกของร่างกาย
ว่าเป็นโรคอยู่นะ นอกจาก ไขมันพอกตับ แล้วยังสามารถเป็นโรคอื่น ๆ ตามมาได้อีก อย่างอาการตับโต จะปวดท้องตรงกลาง หรือด้านบนขวาร่วมด้วย
วิธีการรักษา
แก้ที่ต้นเหตุได้เลย ใครที่พึ่งเป็นระยะแรก ๆ อย่าไปตกใจ วิธีการรักษาไม่ได้ยากแต่ไม่ได้ง่าย แม่หมีผ่านมาแล้ว คุณหมอแนะนำ 2 สิ่งให้กับแม่หมี เป็นทางเลือกที่จะทำให้หายขาด
จากภาวะไขมันแทกในเซลล์ตับ ไขมันเกาะตับ คือ คุมอาหารและออกกำลังกาย ถ้าเรามีวินัย เลือกที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอันห่วยแตกของตัวเอง มาเป็นการรักตัวเอง
เราว่าไม่ยาก เรานึกตลอดเลย ลูกฉันกำลังโตนะ ถ้าฉันเป็นอะไรไปนี่แย่เลย วันรุ่งขึ้นงาน F สปอตบาร์มาเลยจ้า ตามด้วยเสื่อโยคะ และการหาคลิปวิดีโอการออกกำลังกาย
แบบเบา ๆ ที่คนอ้วนสามารถทำได้ในบ้าน โดยไม่ทำให้เข่าเสีย จนไปจบที่คลิปออกกำลังกายของคุณตาต้าที่เราเอามาเปิดยกขา ยกแขนจาก 15 นาที จนหลัง ๆ 2 ชั่วโมง
เรายังไม่รู้สึกพอเลย ร่างกายเสพติดการออกกำลังกายไปซะอย่างนั้น ช่วงนั้นเราออกกำลังกาย 5 วันต่อ 1 สัปดาห์ การออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้อาการไขมันเกาะตับ
ดีขึ้น ทำให้ไม่ดื้อต่ออินซูลินด้วย สำหรับคนที่สูบบุหรี่และดื่มหนักจนติดเป็นนิสัย แนะนำว่าถ้าเลิกสูบบุหรี่ได้ควรเลิกเถอะ ไม่ว่าจะแบบมวนหรือแบบไฟฟ้ามันไม่ได้ส่งผลดี
ให้กับการดำรงชีวิตประจำวันเลย แอลกอฮอล์เช่นกัน ยิ่งดื่มยิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้อีกต่างหาก นอกจากไขมันเกาะตับแล้ว คุณจะได้ตับโต ตับแข็ง มะเร็งตับแถมด้วย
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเลือกกินอาหาร คุณหมอแนะนำว่า ให้ทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ๆ ไว้จะดีที่สุด ให้เน้นทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน พวกหมูเนื้อแดง อกไก่ ปลาทะเล ไข่ทานได้
ข้าวไม่ขัดขาว พวกข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวไรเบอรี่ ข้าวสีนิล ถ้าไม่รู้จะเลือกข้าวแบบไหน แนะนำซื้อมาอย่างละกิโล เอามาเขย่ารวม ๆ กันจะได้ข้าวหลายสี
เวลาหุงข้าวแบบนี้ให้ใส่น้ำให้เยอะกว่าปกติที่เคยหุงข้าวขาว พอหุงสุกจะได้ข้าวที่นุ่มหอมอร่อยและอยู่ท้องนานมากกว่าการกินข้าวขาวเสียอีก
ควรทานผักใบเขียวให้มากขึ้น สำหรับผลไม้ เราเลือกที่จะไม่ทาน เพราะเราขี้เกียจเลือกว่าอันไหนไม่หวาน อันไหนทานได้ สำหรับแม่หมี เรารู้สึกว่าผลไม้หวานทุกอย่าง
เราจบไฟเบอร์ วิตามิน อาหารที่เพิ่มกากใยที่ผักใบเขียวและข้าวไม่ขัดสีไปแล้ว แต่ใครอยากทานผลไม้ แนะนำไปทานพวกตระกูลเบอรี่ อย่างสตอเบอรี่ แบล๊กเบอรี่ ลูกหม่อน
พวกแอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ พวกนี้เป็นผลไม้น้ำตาลต่ำ สามารถทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ในส่วนของคนที่มีภาวะโรคอ้วน ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ คุณหมอ
จะใช้การผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหาร เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก สำหรับตัวเราเองทดลองทำ 3 เดือน คุมอาหารและออกกำลังกาย ไขมันในช่องท้องลดลงเยอะมาก
ตอนนี้สบายใจได้เลยถ้ายังรักษาวินัยใน 2 เรื่องนี้ได้อยู่ เราจะไม่กลับมาเป็นโรค ไขมันพอกตับ อีกแน่นอน ใครที่รู้ตัวว่าเป็น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองนะ
พยายามหาเวลาออกกำลังกาย 15 นาทีต่อวัน ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เคยได้ยินมั้ย “แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย” มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะทุกคน สู้ ๆ