ไข้คีโต คืออะไร มาทำความ รู้จักกับไข้คีโต (keto flu) กัน
กลับมาพบกันอีกครั้ง กับเรื่องของสุขภาพ วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง ไข้คีโต ต่อจากเมื่อครั้งก่อน เราคุยกับถึงเรื่อง อาหารคีโต ทำไมหลาย ๆ คนที่กินคีโตแล้วถึงได้ลดหุ่นได้
และอาหารคีโต สามารถกินอะได้บ้าง วันนี้แม่หมีจะมาพูดถึงผลข้างเคียง หลังจากที่กินอาหารคีโต ซึ่งบางคนอาจจะมีอาการ ไข้คีโต (keto flu) หรือบางคนอาจจะไม่เป็นอะไรเลย
อาหารคีโตที่เรา ๆ กินกันเข้าไปนั้น ปริมาณไขมันจะสูง และมีการกินคาร์บในปริมาณที่น้อยมาก แน่นอนว่าการงดแป้งและน้ำตาล สามารถช่วยลดสัดส่วนได้แน่นอน
แต่การกินคีโต ส่งผลข้างเคึียง หลายประการทีเดียว ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถกินคีโตได้นะ มีคนบางประเภทที่ห้ามกินคีโตด้วย เดี๋ยวแม่หมีจะอธิบายง่าย ๆ ให้ทุกคนเข้าใจกันนะ
10 อาการ ไข้คีโต
อาการที่ 1 คือ ไข้คีโต (keto flu)
อาการไม่ได้เหมือน ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้นะ การเป็นไข้ในที่นี้ ไม่ได้เกี่ยวกับอุณหภูมิที่ร้อนมากขึ้น ภายในร่างกาย เพียงแต่จะไม่สบายตัว อึดอัด
ปวดเมื่อยเนื้อตัว อ่อนเพลียน ไม่มีแรง คลื่นไส้ และบางคนถ่ายท้องด้วย สาเหตุเพราะว่า เราไม่กินคาร์โบไฮเดรตแล้ว ทำให้ขาดน้ำและเกลือแร่ในช่วงแรก ๆ ที่ทานคีโต
พอผ่านไปซักพัก จะค่อย ๆ ปรับตัวได้ และดีขึ้น ใครที่่ กินคีโต ต้องศึกษาก่อนว่า อาการแทรกซ้อนจะมีอะไรบ้าง อย่าห่วงแต่ละผอมจนละเลยเรื่องสุขภาพนะ
- การกินคีโต คืออะไร กินอะไรได้บ้าง คีโตเจนิค ลดน้ำหนักได้จริงไหม
- ระบบเผาผลาญ กับการลดหุ่น กินอย่างไรให้กระตุ้นการเผาผลาญ
อาการที่ 2 คือ อาการท้องผูก
ระบบขับถ่ายแปรปรวน บางคนจะมีอาหารท้องผูก หลังจากการปรับมาทานอาหารคีโต ร่างกายของเราจะขับน้ำออกมามากกกว่าปกติ
เมื่อเราทานอาหารเข้าไป สู่กระบวนการย่อยอาหาร และเมื่อร่างกายมีน้ำน้อย ระบบขับถ่ายจึงไม่ไหลลื่นเหมือนเดิม ดังนั้น ใครที่ทานคีโต ต้องทานน้ำเยอะ ๆ ด้วยนะ
อาการที่ 3 คือ ความอยากอาหารที่เปลี่ยนไป
เมื่อเราตัดคาร์บออกจากวงจรชีวิตไปแล้ว สมองของเรานั้นจะสั่งการว่า เฮ้ย !! เราต้องการคาร์โบไฮเดรตแล้วนะ เมื่อเราฝืนต่อไปเรื่อย ๆ เจ้าสารเคมีในสมอง จะถูกสร้างมากขึ้น ทำให้หลาย ๆ คน ตะบะแตก
กลายเป็นคนกินจุกกินจิก ถ้าไม่รักษาวินัย มีหวังแย่แน่เลย ซึ่งอาการแบบนี้ เป็นการตอบสนองของร่างกายในรูปแบบทางชีววิทยา ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย หลังจากที่เรากินคีโต และหลีกเลี่ยงการกินคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง
อาการที่ 4 คือ อารมณ์แปรปรวน
เป็นอีก 1 อาการที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราตัดคาร์บแล้ว เราจะไม่ได้รับคาร์บโบไฮเดรตที่จำเป็นต่อการผลิตเซโรโทนิน ที่เป็น สารเคมีในสมองที่ช่วยควบคุมอารมณ์ อาจจะนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ หลับไม่สนิท และมีความอยากอาหารเพิ่มมากขึ้น จึงกลายเป็นว่า จิตใจไม่มีความสุขเท่าที่ควร
อาการที่ 5 คือ อาการท้องร่วงของ ไข้คีโต
ซึ่งหลาย ๆ คนที่กินคีโตมักจะมีอาการแบบนี้ นับเป็นอาการ ไข้คีโต ที่ฮิตติดชาร์ตเลยทีเดียว เนื่องจากเมื่อเรากินอาหารที่มีไขมันสูง น้ำดีที่ถูกปล่อยจากตับ
จะไปย่อยอาหารที่มีไขมันสูง ๆ โดยอาหารคีโต จะเน้นในเรื่องการกิน fats 75% ดังนั้น น้ำย่อยถูกปล่อยออกมามากเกินไป สรรพคุณของน้ำดี
คือ เป็นยาระบายของร่างกายนั่นเอง พอน้ำดีออกมาเยอะเกินไป จึงจุดระเบิดระบบขับถ่ายให้เกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ จนรู้สึกคล้านคนท้องเสีย ท้องร่วงนั้นเอง
อาการที่ 6 คือ หิวน้ำตลอดเวลา
มีหลายคนรู้สึกว่า อยากดื่มน้ำบ่อย ๆ ทำไมคอแห้งจังเลย นั่นเป็นเพราะ ร่างกายของเราขับน้ำออกมากขึ้น จึงทำให้เราหิวน้ำตลอดนั่นเอง ให้เราสังเกตง่าย ๆ ถ้าร่างกายขาดน้ำ น้ำไม่พอ ปัสสาวะของเราจะเป็นสีเหลือเข้ม มีกลิ่นฉุน ถ้าเราได้รับน้ำอย่างพอเพียง ปัสสาวะจะมีสีใส
อาการที่ 7 คือ ลมหายใจมีกลิ่น
ซึ่งเมื่อเรากินอาหารคีโต ร่างกายของเราจะเข้าสู่สภาวะคีโตสิส และจะสร้างคีโตน และอะซิโตน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ร่างกายของเรา สร้างเองตามธรรมชาติ
เจ้าคีโตนจะถูกขับออกทางทางลมหายใจ เมื่อเราหายใจออก จะมีกลิ่นลมหายใจที่ต่างไปจากเดิม (เคยรู้สึกกันบ้างมั้ยคะ สาวกคีโต)
อาการที่ 8 ของ ไข้คีโต คือ เบื่ออาหาร
โดยปกติแล้ว ถ้าเราลดอาหาร จำกัดการกิน จะทำให้มีความรู้สึกอยากอาหารมากกว่าเดิม อยากกินสารพัดอย่าง เพื่อให้กำจัดความหิว
ความอยากที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเราใช้เวิธีลดน้ำหนัก้ดวยการกินคีโต เราจะรู้สึกไม่อยากอาหาร ไม่หิว เท่าที่ควร ในบางคนมีอาหารเบื่ออาหารเสียด้วยซ้ำ
เนื่องจากเรากินคาร์บโบไฮเดรตในปริมาณน้อย จึงทำให้หยุดการผลิตฮอร์โมนกระตุ้นความหิว ที่เรียกว่าฮอร์โมนเกรลิน นั่นเอง
อาการที่ 9 คือ ไตทำงานหนัก
เนื่องจากอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นเอง ซึ่งเป็นเนื้อสัตว์และไขมันซะเป็นส่วนใหญ่ และเป็นปริมาณที่มากอีกด้วย ดังนั้น ไตมีหน้าที่ที่ต้องเผาผลาญสิ่งที่เรากินเข้าไป ให้เป็นพลังงานนำไปใช้ต่อในร่างกาย จึงเสี่ยงที่ต้องทำงานหนักมาก
อาการที่ 10 คือ มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
เพราะอาหารคีโต เป็นอาหารที่มีไขมันสูง ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ติดมัน เนย ชีส เป็นต้น อาจจะไปเพิ่ม คอเลสเตอรอลได้ ดังนั้น เราควรเข้าเช็คสุขภาพกับคุณหมอ เป็นประจำด้วย จะได้ไม่เสี่ยงต่อภาวะโรคหัวใจ
10 อาการ ของคนเป็น ไข้คีโต ซึ่งไม่ใช่ว่า ทุกคนจะเป็น บางคนเป็น บางคนไม่เป็น บางคนเป็น 2 – 3 อาการ บางคนเป็นหลาย ๆ อาการ
แตกต่างกันออกไป และใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักแบบคีโต อย่างที่แม่หมีบอกไป การที่จะลดน้ำหนักในรูปแบบไหน เราควรศึกษา
หาความรู้ หาข้อมูลให้ดีก่อน เพื่อสุขภาพของตัวเราเองนะ เรามาดูกันว่า ใครที่ไม่ควรเข้าสู้สังคมคีโต อย่างที่รู้ ๆ อาหารคีโต จะมีเนื้อสัตว์ และ
ไขมันจะสูงกว่าอาหารปกติทั่วไป คนที่มีปัญหาเรื่องระบบเผาผลาญไม่ดี จะทำให้เกิดการสะสมของไขมัน คอเรสเตอรอลในเลือดจะสูง
สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคไต ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะไตเสื่อมได้ เนื่องจากต้องย่อยโปรตีนในปริมาณที่สูงกว่าอาหารปกติ
[WD_Button id=2743]
คนที่ป่วยเกี่ยวกับโรคตับ ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะตับทำหน้าที่เผาผลาญไขมัน ต้องผลิตน้ำดีเยอะขึ้น เพื่อไปย่อยไขมันที่เรากินไป
คนที่ป่วยเป็นเบาหวาน ประเภทที่ 1 ไม่ควรกินคีโต เพราะร่างกายจะไม่ได้รับน้ำตาล จะมีภาวะขาดอินซูลิน ทำให้เลือดมีปริมาณคีโตนสูง
สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ และอยากลดหุ่นด้วยการกินอาหารคีโต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนน่าจะดีกว่า เดี๋ยวจะป่วยหนักกว่าเดิม
แม่หมีเข้าใจคนที่อยากลดน้ำหนักนะ ใครว่าวิธีไหนดี เราเองอยากทดลองด้วย ตัวแม่หมีเองลองวิธีนั้น วิธีนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อเอาน้ำหนักส่วนเกินออก
และคิดว่าจะได้สุขภาพที่ดีตามมา เราควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเราเอง และตั้งใจที่จะทำอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้น ทำ ๆ เลิก ๆ ทำบ้างไม่ทำบ้าง
อาจจะเกิดภาวะโยโย่ ตีให้น้ำหนักขึ้นหนักและกลายเป็นว่า เราอ้วนกว่าเดิม นอกจากเสียเวลาแล้ว ยังเสียสุขภาพอีกต่างหาก แถมยังเสี่ยงต่อ
โรคภัยไข้เจ็บด้วย การกินคีโต ล้วนแล้วแต่ต้องไว้ระยะเวลา รอจนกว่าร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตสิส ในช่วงแรก ๆ น้ำหนักและสัดส่วนจะไม่มีการลด
หรือเปลี่ยนแปลงใด ๆ ให้เรากินคีโตต่อไปเรื่อย ๆ จนร่างกายของเราปรับสภาวะได้ ทำให้น้ำหนักและสัดส่วนลดลงในที่สุด อดทนและสู้ต่อไปนะ
ช่วงนี้สถานการณ์โควิด – 19 ยังไม่เบาบางลงเลย จะออกไปเที่ยวไหน ควรระมัดระวังด้วย ถ้าอยากเที่ยวทิพย์ แวะไปเที่ยวได้ที่เพจ ออกเที่ยว-ก่อนที่จะยืนเยี่ยวไม่ไหว ได้นะ