ซอฟต์พาวเวอร์ คืออะไร พลังซอฟต์ที่ขับเคลื่อนสังคมในแบบซอฟต์ ๆ
เราได้ยินคำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ นี้มาจากป๋าเต็ด หรือ ยุทธนา บุญอ้อม เจ้าพ่อ Music Fest ของไทย ออกมาโพสต์หลังจากที่มิลลิ โชว์เพลงในงาน Coachella เสร็จ
ป๋าเต็ด บอกว่า นี่แหละคือ Soft Power ที่มาจากฝีมือจริง ๆ มันคือโชว์ที่ดีมาก มิลลิยังคงแคแรคเตอร์ขี้เล่น แต่เด็ดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
ร้อง แรพ เต้น ตบท้ายด้วยชวนคนมากินข้าวเหนียวมะม่วงที่เมืองไทยอีกต่างหาก ในระยะเวลาโชว์ของมิลลิแค่ไม่กี่นาที เชิญชวนได้แบบเหลือเชื่อ
จริง ๆ แล้วข้าวเหนียวมะม่วงนี่ ติดอันดับ 1 ใน 50 ของขนมหวานที่อร่อยที่สุดในโลกเลยนะ จากการสำรวจของสำนักข่าว CNN ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่มาในเมืองไทยจะพลาดสั่งไม่ได้เลย อย่างอาหารคาวของไทยที่ดัง ๆ คือ ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ผัดไทย ขนมหวานต้องข้าวเหนียวมะม่วงนี่แหละ
ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) คืออะไร
แปลตรงตัว “อำนาจอ่อน” หรือจะบอกว่า อำนาจแบบละมุน ละไม คำนี้คงไม่ค่อยจะคุ้นหูกันซักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดว่า Soft Power หลายคนจะเอ๊ะกันเลยทีเดียว
Soft Power ที่ไม่ใช่ software นะ อย่าสับสนกันล่ะ ความทรงพลังในแบบซอฟต์ ๆ เป็นแนวคิดที่พัฒนาขึ้นโดย โจเซฟ นาย จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
อธิบายง่าย ๆ คือ การแผ่ขยายอิทธิพล โดยการเปลี่ยนความคิด หรือเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้อื่นผ่านทางวัฒนธรรม กีฬา การศึกษา มาโน้มน้าวชักจูง
และดึงดูดความสนใจ ให้ผู้อื่นเปลี่ยนแปลงคล้อยตาม โดยที่เราไม่ได้บังคับขู่เข็ญ โดยที่ไม่ใช้อำนาจใด ๆไม่ว่าจะเป็นอำนาจทางทหาร อำนาจทางการเมือง
อำนาจทางเศรษฐกิจ เพื่อไปบีบบังคับ ให้ผู้อื่นหรือใครก็ตาม ต้องปฏิบัติตามสิ่งที่เราบอกหรือเราต้องการ สั่งแบบแม่ผัวในละครไทย ชี้นิ้วสั่งให้ลูกสะใภ้ทำ นั่น นี่
โดยที่อีกฝั่งต้องรีบทำให้แบบขัดเสียไม่ได้ เพราะกลัวถูกฝ่ามือแม่ผัว หรือถูกแม่ผ้วฟ้องลูกชายของตัวเอง แบบนั้นไม่เรียกว่า ซอฟต์พาวเวอร์ หรอกนะ
ซอฟต์พาวเวอร์ ในแต่ละประเทศ
ซึ่งที่ผ่าน ๆ มาในแต่ละประเทศเค้าจะมี Soft Power ในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นพวก วัฒนธรรมต่าง ๆ ค่านิยมทางการเมือง วงการบันเทิง อาหาร มาตรฐานความงาม
ประเทศญี่ปุ่น
ในญี่ปุ่นจะเรียกว่า Cool Japan หรือ นโยบายแบบไม้อ่อน โดยทางญี่ปุ่นนั้นจะเน้นในเรื่องของวัฒนธรรมประจำชาติแบบดั่งเดิมผ่านทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย
ในรูปแบบกิโมโน พิธีการชงชา ชาเขียวมัทฉะ หรือจะเป็นความบันเทิงในรูปแบบแอนิเมชั่น หนังสือการ์ตูน สิ่งต่าง ๆ นี้ได้รับการยอมรับในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อาหารญี่ปุ่นนี่เรียกได้ว่าเป็นอีก 1 อย่าง ที่แพร่อิทธิพลมาถึงเมืองไทย ที่เราเห็น และได้ทานบ่อย ๆ อย่างเช่น ราเมน (Ramen) : บะหมี่น้ำของญี่ปุ่น,
ยากินิกุ (Yakiniku) : เนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่น, ซูชิ : ข้าวปั้นญี่ปุ่น หรือจะเป็นพวกเครื่องดื่มที่เราดื่มกันอยู่บ่อย ๆ อย่าง สาเก, โชจู, ชาเขียวมัทฉะ หรือจะเป็นมัทฉะลาเต้
ประเทศเกาหลีใต้
เป็นประเทศที่เราสัมผัสได้ถึง Soft Power ที่สุด ยกตัวอย่าง อาหารของเกาหลี มีบทบาทในสังคมของบ้านเรามากเลย บิบิมบับ : ข้าวยำเกาหลี, แนงมยอน : บะหมี่เย็น,
ต็อกบ๊กกี : แป้งต็อกผัดซอสเผ็ด หรือจะชาไข่มุก นอกจากอาหารแล้วยังมีหนุ่มสาวสายบันเทิงของเกาหลี วงบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง BTS และ BLACKPINK
พวกเขาและพวกเธอเหล่านี้ สามารถสร้างชื่อเสียงและมีอิทธิพลต่อคนทั่วโลกได้อย่างมาก ไม่ว่าจะในอเมริกา หรือในเอเชีย และที่ประเทศไทยบ้านเรานั้นรับมาเต็ม ๆ
ประเทศไทย
Soft Power ของประเทศไทย อยู่อันดับที่ 35 ของโลก ซึ่งอันดับ 1 ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา จีนติดอันดับที่ 4 ญี่ปุ่นติดอันดับที่ 5 ในส่วนของเกาหลีใต้ติดอันดับที่ 12
แล้วอะไรล่ะคือ ซอฟต์พาวเวอร์ ของไทย หลาย ๆ คนบอกว่า ต้มยำกุ้ง อาหารชื่อดังของเมืองไทยถือว่าเป็น Soft Power หรือจะเป็นมวยไทย ที่ถือว่าเป็น
Martial Arts อีกทั้งยังถูกบรรจุเข้าในกีฬาโอลิมปิกนี่ถือว่าเป็น Soft Power หรือจะเป็นนวดแผนไทย ที่ได้รับการยอมรับจากคนต่างชาติ ถือว่าเป็น Soft Power
การที่จะผลักดันให้สิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง มวยไทย หรือนวดแผนไทยนั้น ให้แพร่หลายโดยเป็น Soft Power นั้น ไม่ใช่ว่าจะเกิดจากกลุ่มเล็ก ๆ ที่พยายามทำ
แต่ภาครัฐต้องทำการสนับสนุนด้วย นอกจากจะสนับสนุนในเรื่องเงินแล้ว ยังต้องมีนโยบายต่าง ๆ มีแผนระดับชาติมารองรับ เหมือนกับที่รัฐบาลเกาหลีหรือที่ญี่ปุ่นทำกัน
ซึ่งการที่จะสร้าง Soft Power ได้นั้น ต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร เพื่อทำให้มีบทบาทในโลกร่วมสมัย แต่ละประเทศนั้นจะมีศักยภาพที่จะ พัฒนา ขยายของดี
ที่มีอยู่ภายในประเทศ ให้ออกมาเป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ขึ้นมาให้ได้มากน้อยแค่ไหน ทุกผ่านต้องพึ่งพากัน และร่วมมือกัน ไม่ใช่แค่การผลักดันจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น