ท่าว่ายน้ำ 4 ท่าหลัก [4]
สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพบกันอีกแล้ว กับบทความของครูปุ้ม วันนี้ครูปุ้ม จะมาพาทุกๆคนมารู้จักกับ ท่าว่ายน้ำ 4 ท่าหลัก ท่าว่ายน้ำสากลประกอบไปด้วย 4 ท่าหลัก
ซึ่งประกอบไปด้วย ท่าฟรีสไตล์ ท่ากรรเชียง ท่ากบ และท่าผีเสื้อ ค่ะ นี่เป็น ท่าว่ายน้ำ 4 ท่าหลัก กีฬาว่ายน้ำ ถือว่าเป็นกีฬาชนิดหนึ่ง ที่มีคนหลากหลายช่วงอายุ นิยมเล่น
นิยมฝึกซ้อม และมีการจัดการแข่งขัน ทั้งในระดับ ภูมิภาค ระดับชาติ ระดับโอลิมปิก หรือแม้จะเป็นตามสถานที่สระว่ายน้ำเล็กๆ อย่างกีฬาภายใน หรือกีฬาสีโรงเรียนอีกด้วย การว่ายน้ำนั้นดีต่อสุขภาพ ช่วยทำให้ กล้ามเนื้อยึดตัวได้เป็นอย่างดี
ถ้าใครที่อยากเพิ่มความสูงสามารถว่ายน้ำได้เช่นกัน พ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา ท่านใดสนใจที่จะให้บุตรหลานของท่านมีส่วนสูงที่เพิ่มมากขึ้น ก็ลองพาไปฝึกว่ายน้ำดูนะคะ
เพราะกีฬาชนิดนี้ช่วยทำให้เราสูงขึ้นได้หากว่ายน้ำต่อเนื่องเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญอย่าปล่อยให้เด็กๆ ที่บ้านไปเล่นน้ำกันเองนะคะ ไม่ควรไปฝึกว่ายน้ำตามแม่น้ำลำคลอง หรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เพราะว่ามันจะอันตรายมาก ถ้าให้เทียบกับการไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำ
ถ้าอยากฝึกซ้อมหรือหัดว่ายน้ำ ครูปุ้มขอแนะนำ ให้คุณให้ไปฝึกซ้อมในสระว่ายน้ำ ตามหน่วยงานเทศบาลหรือในสโมสรต่างๆ ในหมู่บ้านจะดีกว่า เพราะว่า มีเจ้าหน้าที่ประจำสระ
คอยช่วยดูแล จริง ๆ แล้วการว่ายน้ำนั้นจะเป็นเหมือนวิชาที่ติดตัวเราไปจนตาย สมมุติว่า ถ้าเราว่ายน้ำเป็นเมื่อตอนอายุ 8 ขวบ แล้วเราจากนั้น เราเลิกว่ายน้ำไม่เคยลงน้ำอีกเลย
วันหนึ่งเมื่อคุณอายุ 20 ปี เราต้องไปสัมมนาที่น้ำตก แล้วบังเอิญ เราไปจมน้ำตกน้ำหรือเกิดอุบัติเหตุในน้ำ เราก็ยังสามารถนำทักษะนั้นๆมาใช้ได้อย่างอัตโนมัติ ร่างกายของเรา จะสั่งการได้ทันทีว่าจะต้องเอาชีวิตรอด
โดยนำกระบวนการที่เคยฝึกฝน เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ กลับมาใช้ใหม่ ถึงแม้จะยากลำบากหน่อย แต่ก็สามารถที่จะพยุงตัวเองได้ ข้อควรระวัง ถ้าเราเห็นคนที่กำลังจมน้ำ
เราไม่ควรที่จะเข้าไปช่วยเหลือเอง ให้ตะโกนหาคนช่วย ยิ่งหลายๆคน ยิ่งดี ถ้าเจอคนที่พึ่งตกน้ำไปตกใจ ให้เรียกสติ ตะโกนดังๆ ให้คนที่ตกน้ำได้ยินว่ากำลังจะช่วย อย่าตกใจ
เดี๋ยวน้ำเข้าปากแล้วจะสำลักน้ำได้ ถ้าอยู่ในระยะใกล้ ๆ ให้หา อุปกรณ์ในการช่วยชีวิตที่อยู่ใกล้ๆ ตัว เช่น ร่ม เชือก เข็มขัด เสื้อคลุม ฯ ให้เราโยนลงไปให้คนที่ตกน้ำได้เกาะ
แล้วดึงขึ้นมา แต่ถ้าตกน้ำในระยะไกลหน่อย ให้หาอุปกรณ์ในการช่วยชีวิตที่สามารถจะโยนไปได้ถึง วกกลับมาเข้าเรื่อง ท่าว่ายน้ำ 4 ท่าหลัก กันดีกว่า
ท่าว่ายน้ำ 4 ท่าหลัก
1.ท่าว่ายน้ำ 4 ท่าหลัก ท่าแรกได้แก่ ท่าฟรีสไตล์ – freestyle
คำว่าฟรีสไตล์ เป็นคำที่เรียกกันติดปาก แต่จริงๆถ้านี้มีชื่อว่า ครอล สโตก (crawl stroke) แต่ทำไม เขาถึงเรียกว่า freestyle เพราะว่า ในการแข่งขันว่ายน้ำนั้น เราสามารถว่ายท่าอะไรก็ได้ ที่คิดว่าเร็วที่สุดไปถึงขอบสระ เป็นคนแรกถือว่าเป็นผู้ชนะ
โดยท่าที่นิยมใช้ในการแข่งขัน คือ ครอล สโตก (crawl stroke) นั่นเอง ท่านี้มีความเร็วสูงสุดในบรรดา ท่าว่ายน้ำ 4 ท่าหลัก เพราะว่า ร่างกายมีความลู่น้ำ มากกว่าท่าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สามารถว่ายได้อย่างง่าย และ ฝึกหัดได้ง่าย ในกระบวนการสอนว่ายน้ำ ก็จะสอนท่านี้ เป็นท่าแรก
2.ท่ากรรเชียง – Black Store
ท่าว่ายน้ำที่ 2 ครูบางท่านอาจจะสอน เป็น ท่ากรรเชียง (Black Store) ไม่ก็เป็นท่ากบ สำหรับครูปุ้มเอง จะดูตามความเหมาะสมของเด็ก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นท่ากรรเชียง
ที่ครูปุ้มเลือกที่จะสอน ถ้าคุณสามารถที่จะว่ายท่าฟรีสไตล์ได้ คุณก็จะว่ายท่ากรรเชียง ได้เหมือนกัน เพราะมันคือ ท่าฟรีสไตล์กลับด้านนั่นเอง มีครูหลายๆคน หลายๆท่าน
จะยกตัวอย่างว่า การว่ายท่ากรรเชียง เป็นเพียงแค่ให้เรานอนหงาย เอาใบหน้าเหนือน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่ในสถานการณ์จริงแล้ว การที่เรานอนหงาย ไม่ว่าจะเป็นการในการแข่งขัน
หรือ อยู่ในทะเล เราจะไม่สามารถเอาหน้าลอยเหนือน้ำได้ตลอดเวลา เพราะว่ามันมีคลื่นนั่นเอง บางทีคลื่นมันก็จะทำให้น้ำท่วมเข้าใบหน้าเราได้ด้วย ต้องระวังให้ดีเช่นกัน
เพราะอาจจะสำลักน้ำได้ ท่ากรรเชียง คือ การว่ายน้ำแบบนอนหงาย ทำเหมือนท่าฟรีสไตล์แต่ว่า พลิกกลับด้าน ใช้แขนทั้งสองข้างดึงน้ำสลับกัน เพื่อให้เคลื่อนที่ไปทางด้านหน้า
พร้อมกับเตะขาสลับกันเหมือนท่าฟรีสไตล์ แต่ท่านี้เวลาเราว่ายในสระว่ายน้ำต้องระวัง เพราะว่าเราไม่มีตาข้างหลัง อาจจะว่ายไปชนคนอื่นที่อยู่ด้านหลังหรือชนขอบสระได้
การว่ายท่ากรรเชียง เทคนิคง่ายๆที่ครูจะพยายามกระตุ้นเด็กๆและบอกเสมอๆว่า การลอยหงายทำง่ายๆเพียงแค่ แอ่นอก ยกพุง ตามองขึ้นบนท้องฟ้า หายใจเข้าทางปาก
หายใจออกทางจมูก ท่ากรรเชียงสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง กระชับหน้าท้องด้านบนและด้านล่าง
3.ท่ากบ – Breaststroke
ท่าที่ 3 คือ ท่ากบ คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าท่ากบ เป็นท่าที่ว่ายแล้วสบายที่สุด แต่จริงๆแล้วก่อนที่จะมาว่ายท่าที่สบายๆแบบนี้ คุณจะต้องฝึกทักษะ หลายอย่างมากกว่าท่าอื่น ๆ
เพราะท่านี้ต้องใช้เทคนิคที่ไม่เหมือนใคร ปกติแล้วการ ว่ายท่ากรรเชียง และ ว่ายท่าฟรีสไตล์ นั่น เราจะเตะขาสลับขึ้นลง แต่ในส่วนของท่ากบ เราจะต้องถีบเท้าเลียนแบบ
ท่าว่ายน้ำของกบตามธรรมชาติ นั่นเอง รวมไปถึงการดึงตัว ให้พ้นน้ำในช่วงจังหวะหายใจ ในช่วงฝึกท่ากบนั้น จะยากกว่าท่าฟรีสไตล์ กรรเชียงและท่าผีเสื้อด้วย
แต่พอว่ายเป็นแล้วนั่นคือ ท่าที่สบายจริง ๆ ไปเรื่อย ๆ ว่ายเรื่อย ๆ ไม่รีบ ไม่ร้อย เพราะใช้แรงเฉื่อยจากการถีบและรวบขา แต่ท่านี้ ถือเป็นท่าพื้นฐาน ท่าหนึ่งที่เป็นทักษะ
ของการเอาตัวรอด เพราะว่าการว่ายท่านี้ ถ้าเราฝึกไปเรื่อย ๆ จะสามารถตั้งหัวขึ้น ถีบ ๆ ว่ายไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องเอาหน้าลงน้ำได้อีกด้วย ท่ากบ ถ้ากบเป็นท่าว่ายที่สบาย
ผ่อนคลาย ใช้แรงไม่มาก เป็นท่าที่เลียนแบบธรรมชาติ โดยใช้มือดึงน้ำเข้าหาตัวเพื่อที่จะยกตัวขึ้นหายใจ ส่วนขาถีบเลียนแบบท่ากบขากบออกไปด้านข้างแล้วหุบรวบ
ขาทั้ง 2 เข้ามาพร้อมกัน เพื่อให้ตัวของเรา สามารถเคลื่อนที่ไปทางด้านหน้า เอาจริง ๆ คือ ท่านี้จะต้อง ใช้การฝึกฝนมากกว่าท่าฟรีสไตล์และท่ากรรเชียง
รวมไปถึงหากถีบขากบผิด หรือชะงักกะทันหันของข้อเข่า อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ ท่ากบ ช่วยฟิตกระชับและ สร้างกล้ามเนื้อต้นแขน ต้นขาให้แข็งแรง
4.ท่าผีเสื้อ – Butterfly stroke
ท่าที่ 4 ท่าสุดท้าย คือท่าผีเสื้อ เป็นท่าที่ต้องใช้แรง ใช้กำลัง ในการว่ายเยอะกว่าท่าอื่นๆ ในการสอนว่ายน้ำ ครูปุ้มจะสอนท่านี้ เป็นท่าสุดท้าย แต่ไม่ใช่ว่าเด็กทุกๆคนจะว่ายได้
เพราะเด็กบางคนไม่สามารถว่ายท่าผีเสื้อได้ อาจจะด้วยแรงที่น้อย หรือการจับจังหวะในการหายใจได้ไม่ถูก แต่ก็ยังมีเด็กอีกหลายๆคน ที่สามารถว่ายท่าผีเสื้อเป็นก่อนท่ากบ
เพราะว่าหลักการของการว่ายท่าผีเสื้อ มีส่วนคล้ายกับการว่ายท่าฟรีสไตล์ จากการที่เราเตะขาสลับ เราเปลี่ยนมาใช้เป็นขาคู่ ในส่วนแขนที่ว่ายสลับกัน ในท่าผีเสื้อเราใช้เป็นแขนคู่
ซึ่งจะใกล้เคียงกันกับท่าฟรีสไตล์ ท่าผีเสื้อ ท่าผีเสื้อเป็นการว่ายน้ำคว่ำหน้า ซึ่งจะว่ายคล้าย ๆ ท่าฟรีสไตล์ แต่เป็นการดึงแขนคู่ และเตะขาคู่ ใช้แรงส่งจากสะโพกและหลัง
เป็นท่าว่ายน้ำที่ใช้กำลังมาก ซึ่งต้องผ่านการฝึกฝนในเรื่องกำลังมาพอสมควร เพราะเป็นการขึ้นหายใจตรงๆ โดยใช้มือทั้งสองข้างดันตัวให้ลอยน้ำ ท่าผีเสื้อ กล้ามเนื้อช่วงหัวไหล่ หน้าอก ลำตัว หลังและขา ฟิตกระชับได้สัดส่วน
จริง ๆ แล้วการว่ายน้ำใช้กล้ามเนื้อในทุกสัดส่วนของร่างกาย เป็นการออกกำลังกายที่ดีมาก เพราะได้ออกแรง แขน ขา หลัง ไหล่ ทุกกล้ามเนื้อมัดใหญ่เลย ทำให้เราได้ออกแรงได้ดี
อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีต่อระบบหัวใจ รวมไปถึงหลอดเลือดอีกด้วย ดังนั้น กีฬาว่ายน้ำ จึงเป็นกีฬาประเภท การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ นั่นเอง
วันนี้ไปก่อนนะคะ ขอบคุณที่อ่านบทความของเรา เราสนับสนุนให้คนไทยรักการอ่าน ติดตามการเทคนิคการว่ายน้ำ ในแบบต่าง ๆ ได้ที่ facebook ว่ายน้ำกับครูโน็ต กับครูปุ้ม