น้ำตกกระทิง อุทยาแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ข้างค่ายลูกเสือจันทบุรี
สายชิลล์พาเที่ยว กับช่วงเที่ยวไม่ห่างบ้าน วันนี้ จะพาไปชิลล์ไหนดีน๊า เลือกยากมาก เพราะที่เที่ยวแต่ละที่ จังหวัดจันทบุรี สวยงามเหมาะแก่การไปเยือนทุกที่เลย งั้นขอเลือกไปที่ น้ำตกกระทิง ละกัน
ขออนุญาตย้อนวัย ไปสมัยที่ต้องเข้ารับการอบรบ ลูกเสือ B.T.C. ที่ค่ายลูกเสือ จังหวัดจันทบุรี 3 คืน 4 วัน ตลอดเวลา เรามองเห็นน้ำตก ที่ไหลลงจากภูเขาสูง ที่อยู่ด้านหลังค่ายทุกวัน
ถึงตัวน้ำตกมันไกลลิบ ๆ ก็ยังรับรู้ได้ว่า สวยและสมบูรณ์มาก จนวันสุดท้าย เราได้เดินทางไกล เข้าป่า ขึ้นเขา วนไปวนมา แล้วก็มาโผล่อีกที ปลายน้ำตกซะงั้น เอาเป็นว่า
วันนี้ รำลึกความหลังกันหน่อย เราจะพา ทุกคนไปเดินเล่น ดูความสวยงามของ น้ำตกกระทิง จังหวัดจันทบุรีกัน
การที่เราจะเข้าไปที่ตัว น้ำตกกระทิง ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติ เขาคิชฌกูฏ หรือ เขาพระบาท นั่นเอง เราต้องมาจุดตรวจคัดกรองโรคก่อนนะ ตอนนี้โรคโควิด-19 ยังมีการแพร่ระบาดอยู่
พี่ทหารจะทำการตรวจเช็คอุณหภูมิเราก่อน พร้อมทั้งสเปย์ฆ่าเชื้อโรคให้ที่มือเราด้วย อ้อ !! อย่าลืมเอาแมส / หน้ากากอนามัย ไปด้วยนะ ถ้าไม่มี พี่ทหารไม่ให้เข้า ถ้าผ่านการตรวจเรียบร้อยแล้ว
ก็ไปลงชื่อเช็คอินได้เลย แล้วก็ไปชำระค่าเข้าอุทยาน เด็ก คนละ 20 บาท ผู้ใหญ่ คนละ 40 บาท จักรยานยนต์ คันละ 20 บาท จากตรงจุดตรวจคัดกรอง ไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็ถึงตัวน้ำตกแล้ว
น้ำตกกระทิง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 13 ชั้นเชียว เราตั้งเป้าไว้ว่า ขอแค่ชมความงาม แบบเต็มที่ 4 – 5 ชั้น ก็พอ สูงเกินกว่านี้ ไม่น่าจะไหว เพราะสภาพน้ำตกนั้น
ยังเป็นป่าที่สมบูรณ์ เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ ทางเดินที่จะขึ้นชั้นน้ำตก แต่ละชั้น ก็เป็นทางเดินป่า ปกติทั่วไป พื้นดิน ก้อนหิน ต้นไม้ ตะไคร่ มอส ความชันไม่มาก ทางเดินในบริเวณน้ำตก
จะเป็นเส้นทาง การเดินเพื่อศึกษาธรรมชาติ มีป้ายบอกจุด บอกความสำคัญในแต่ละจุด มีความชันบ้าง แต่ไม่มาก ปีน ๆ ป่าย ๆ ทางขรุขระ สลับกับทางเดินเรียบ ๆ ที่ทางอุทยานได้ทำไว้
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ทางเดินแบบนี้ จะมีไปถึงน้ำตก ชั้นที่ 9 พอชั้นที่ 10 ขึ้นไป จะไม่สามารถเดินได้ เนื่องจากเคยมีเหตุการณ์ดินถล่ม เพราะน้ำป่าเมื่อสมัย 10 กว่าปี ที่ผ่านมา ถึงทำให้
ไม่มีเส้นทาง เดินขึ้นไปถึงชั้นที่ 13 เหมือนโดนปิดโดยธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ จึงขึ้นได้ถึงแค่ชั้น 9 เท่านั้น แต่ถ้าอยากขึ้นไปให้สุดจริง ๆ พี่ทหารบอกว่า ต้องหาคนนำทาง
แต่คนที่จะตามขึ้นไป ต้องแข็งแรงและเคยเดินป่ามาด้วย มันลำบากมากกว่า 1 – 9 แบบสุด ๆ เพราะพื้นที่เป็นป่าแบบสมบูรณ์ จึงไม่มีใครขึ้นไปถึงชั้นที่ 13 นานแล้ว
สำหรับเรา แค่ 4 – 5 ชั้น ก็พอใจแล้ว มาซึมซับธรรมชาติ มาดูความสวยงาม วันนี้ น้ำแรงมาก อากาศเย็น กำลังดี แดดไม่แรง เหมาะแก่การเดินสำรวจน้ำตก สิ่งที่เรามาตามหา คือ หาดทราย
ที่อยู่ปลายน้ำตก มีสะพานไม้ให้เดินข้าม น้ำใสมาก จำได้เท่านี้ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เพราะตอนเดินทางไกลจากค่าย เดินไปเดินมา มาโผล่สะพานไม้นี่แหละ หลังจากที่เดิน ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ
น้ำตก ชั้นที่ 1 – 4 อยู่พักใหญ่ แล้วหาสะพานไม้ไม่เจอ แต่มาเจอสะพานเชือก ที่ขึงผ่านแอ่งน้ำตก ตรงชั้นที่ 3 เราก็เดินเล่น ถ่ายรูปที่สะพานเชือกแทน ถอดใจ ในการตามหา
สะพานไม้ไปแล้ว ตรงนั้นมีร้านค้าสวัสดิการด้วยนะ แต่วันที่เราไปเค้าไม่เปิด โชคดีที่วันนั้นไม่ร้อน ถ้าหิวน้ำนี่เรื่องใหญ่เลยนะ แต่ก็อยากจะแนะนำ ทุกคนที่จะมาเที่ยว
ที่ น้ำตกกระทิง ถ้าไม่นำข้าวมาทาน ก็ควรทานข้าวมาให้เรียบร้อยก็จะดี เตรียมน้ำติดมาด้วยซัก 1 ขวด เผื่อร้านค้าไม่เปิด จะได้ไม่วุ่นวายกับความหิว
ในส่วนของตัวน้ำตกชั้นที่ 1 เป็นน้ำตก ชั้นเตี้ย ๆ มีทางเดินเลียบไปกับธารน้ำ ร่มรื่นดี ในส่วนของชั้นที่ 2 เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาตามโขดหิน น้ำไหลแรงมาก แล้วก็มีแอ่งน้ำ
อยู่ปลายโขดหิน ตรงจุดนี้สามารถเล่นน้ำได้ ชั้นที่ 3 เดินขึ้นมาอีกนิดเดียว ไม่ห่างจากชั้นที่ 2 ตรงนี้ มีแอ่งน้ำ สามารถเล่นน้ำได้หลายจุดเลย แต่ละจุด ความลึกก็ต่างกันไป
ให้เลือกลงกันเอาเอง ถ้ามากันแบบครอบครัว มีเด็กเล็ก ๆ ก็เลือกเล่นน้ำตื้น ๆ ก็จะดี แต่ทางทีดี เวลาจะเล่นน้ำตกช่วงหน้าฝนแบบนี้ ก็เล่นตรงที่น้ำตื้น ๆ จะดีที่สุด คุณอย่าเห็นว่าน้ำตื้น
แล้วมองเห็นทรายที่ก้นแอ่งน้ำตก แต่น้ำตรงนั้น ก็เชี่ยวมากเลยนะ อย่าลืม ปลาพลวงนะจ๊ะ มีแทบทุกแอ่งเลย ตอดตุ๊บ ตอดตั๊บ ตอนเราเดินข้ามสะพานเชือก ชมวิว ถ่ายรูปเพลิน ๆ ได้ยินเสียงเด็ก
ที่เล่นน้ำกับพ่อ กรี๊ดลั่นเลย ปากก็บอกพ่อ หนูกลัวปลา ปลามันกินนิ้วตีนหนู เรานี่ ถึงกับหลุดขำทีเดียว มีรอยยิ้ม และเสียงฮากัน สนุกสนาน ในส่วนของ สะพานเชือก ที่ทางอุทยานทำไว้
สำหรับให้นักท่องเที่ยว ถ่ายรูปได้ เราเองก็ใช้เวลาไปกับสะพานเชือก และน้ำตกชั้นนี้อยู่นานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว ตรงนี้เป็นที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องมาจาก เราเดินตรงมาจากที่จอดรถปุ๊บ
ขึ้นบันไดที่ทางอุทยาทำไว้ ก็มาถึงน้ำตกชั้นนี้เลย มาสะดุดตากับสะพานเชือก ทุกอย่างถูกจัดสรรได้อย่างลงตัว เหมาะแก่การนั่งพักผ่อน นั่งทานอาหารชิว ๆ กับครอบครัว
หรือกับเพื่อนสนิท มิตติ้งเล็ก ๆ แต่อย่างส่งเสียงดังมากนักนะ เอาแบบกรุบกริบ ๆ พอถ้าเราจะเดินขึ้นน้ำตกในชั้นที่ 4 ก็ไม่สามารถนำอาหารขึ้นไปทานได้แล้วนะ เจ้าหน้าที่
คุณพี่ทหาร อนุญาตให้นำอาหาร นำข้าว นำขนม ตั้งวงปิ๊กนิคได้ถึงแค่ชั้น 3 เท่านั้น เราก็เหลือบตาไปพบกับ ศาลไม้ ตรงทางขึ้นน้ำตกชั้น 4 เป็นศาลเจ้าพ่อ สานนารายณ์
เราก็แวะสวดมนต์ ขอพรท่าน ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ตลอดที่เดินท่องเที่ยว ใน น้ำตกกระทิง
หลังจากไหว้ศาลแล้ว เราก็เดินลงมาด้านล่าง แล้วเจอคุณลุงทหารอยู่ที่จุดที่พัก จึงเอ่ยปากถามหาสะพานไม้ หาดทรายที่เราอยากไป คำตอบคือ ลงไปทางลานกางเต็นท์เลยครับ
เดินเข้าไปก็เจอสะพานไม้แล้ว เรากับอาเฮีย ก็ขึ้นรถขี่ออกไปที่จุดกางเต็นท์ทันที เดินเข้าไปหน่อยเดียว ก็เจอสะพานไม้แต่ไม่มีโครงเดิมเลย แล้วน้ำก็เขียว ขุ่นมากอาจจะเป็นเพราะ
ฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้มาหลายวัน จนมองไม่เห็นทรายเลย เราก็เดินทัวร์ข้ามสะพานไม้ไปอีกฝั่ง ตอนที่เรามาเข้าค่าย เราจำได้ว่าถ้าเดินข้ามสะพานไม้นี้ไป จะมีทางเดินเข้าไปในป่า สามารถเดินทะลุไปได้
ก็จะไปเจอกับลำธารและน้ำตกด้านใน แต่ตอนนี้ไม่สามารถเดินเข้าไปได้แล้ว มีช่องทางเดินเหมือนเดิม แต่มันรก ครึ้มไปด้วยต้นไม้ คิดว่าไม่น่าจะเดินเข้าไปได้ เรากับอาเฮีย ก็เลยเดินย้อนกลับออกมา
นอกจากเราจะมาตามรอยย้อนอดีต หาสะพานไม้แล้ว เราก็พาอาเฮียมาพักผ่อนด้วย มีงานวิจัยของ University of California, Berkeley บอกว่า การได้พักผ่อน ท่ามกลางธรรมชาติ
แผนที่น้ำตกกระทิง จังหวัดจันทบุรี
หลังจากที่วิ่งเสร็จ 1 วัน ธรรมชาติจะช่วยบำบัด และลดโมเลกุลที่ส่งผลเสียแก่ร่างกาย ที่จะทำให้เราเกิดการอักเสบหรือบาดเจ็บได้ การออกไปเที่ยวไปใกล้ชิดธรรมชาติ ได้รับประโยชน์มากมาย
ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมไปถึง ได้พักผ่อน ผ่อนคลายความเครียด ได้รับอากาศบริสุทธิ์ ช่วยเพิ่มพลังใจให้กับชีวิตของเราด้วย การเดินทางไม่ว่าจะใกล้ หรือไกล ทุก ๆ ที่ ที่เราไปมันคือความทรงจำ
ฝากกดติดตามพวกเราได้ ในเพจ สายชิลล์พาเที่ยว แล้วแวะมาเที่ยวกับพวกเราด้วยกันนะ