บัวขาว บัญชาเมฆ ขึ้นต่อยมือเปล่า 3 กันยายนนี้ พร้อมลุย
วันเสาร์ที่ 3 กันยายนนี้ บัวขาว บัญชาเมฆ จะมีโปรแกรมขึ้นต่อยกับนักชกชาวตุรกี เออร์แกน วาโรล ที่เวทีมวยราชดำเนิน ในรายการ
BKFC THAILAND 3: MOMENT OF TRUTH PRESENTED BY SINGHA ซึ่งเวทีมวยเป็นแบบทรงกลม Squared Circle อีกด้วย
นักมวยไอดอลของใครต่อหลายคน บัวขาว บัญชาเมฆ
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา บัวขาวพึ่งขึ้นเวทีชกกับนักมวยหนุ่มน้อยจากแดนปลาดิบ โคตะ มิอุระ ไปหมาด ๆ และอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้
เค้ามีโปรแกรมขึ้นชกแบบไม่ใส่นวม ในเวทีทรงกลมกับเออร์แกน วาโรล วันนี้เรามาทำความรู้จักกับขวัญใจ ยอกนักชกมวยไทย
ที่เคยไปชนะศึก K1 ในญี่ปุ่นมาแล้วถึง 2 ครั้ง 2 ครา คงไม่มีใครชื่อว่าพี่บัวขาวของเรา วันนี้อายุเข้าเลข 4 เรียบร้อยแล้ว
ด้วยความที่หุ่นฟิตเปรี๊ยะตลอดกาล ล่ำบึกแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนอายุ 40 เลย ชื่อจริงของบัวขาวคือ
ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2525 เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ
ได้รับปริญญาโท ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับปริญญาเอก
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ในปี 2560 ที่ผ่านมา อีกทั้งเค้ายังได้เป็น
อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และ อาจารย์พิเศษ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อีกด้วย
จุดเริ่มต้นเส้นทางนักมวย
บัวขาว เริ่มต้นเข้าสู่การเป็นนักมวยเมื่อเค้ามีอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น ที่บ้านเกิดในจังหวัดสุรินทร์ และเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ได้ย้ายมาอยู่ที่สังกัดค่าย
ป.ประมุข โดยใช้ชื่อแรกในการชกว่า ดำทมิฬ เกียรติอนันต์ เดินทางมาชกมวยไทยที่จังหวัดกรุงเทพ และได้เป็นแชมป์หลายเวที อย่างแชมป์เวทีสยามอ้อมน้อย
แชมป์ประเทศไทย เป็นต้น ต่อมาในปี พ.ศ.2545 เค้าได้ชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า ในรุ่ง 140 ปอนด์ ที่เวทีมวยลุมพินี โดยเอาชนะนักชกชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง
โคบายาชิ ไปได้ และอีก 2 ปีต่อมา บัวขาว บัญชาเมฆ ได้ไปฝากชื่อและฝีไม้มวยไทยเอาไว้ที่กรุงโตเกียว ในศึก รายการ K-1 World MAX 2004
ซึ่งเราจะรู้จักรายการนี้ในชื่อสั้น ๆ ว่า K1 นั่นเอง ซึ่งรายการนี้เป็นการชกแบบทัวร์นาเมนต์ น็อคเอาท์ หรือ ใครแพ้ตกรอบ ถูกคัดออกไปนั่นเอง บัวขาวผ่านเข้ารอบมาเรื่อย ๆ
จนมาถึงรอบชิงชนะเลิศ พบกับแชมป์เก่าของประเทศญี่ปุ่นอย่าง มาซาโตะ ในการแข่งครั้งนี้ บัวขาวเป็นฝ่ายเอาชนะได้ไป พร้อมยังเป็นการคว้าแชมป์ K1 มาครองได้สำเร็จ
เป็นคนแรกของประเทศไทยเลยทีเดียว เรียกได้ว่าโด่งดังในประเทศญี่ปุ่นแบบสุด ๆ ไปเลย และในปี พ.ศ. 2549 เข้าได้เข้าชิง K-1 World MAX อีกครั้ง ในปีนี้บัวขาว
สามารถคว้าแชมป์ K1 กลับมาครองอีกครั้ง จึงทำให้เค้าเป็นนักชกคนแรก ที่สามารถชนะเลิศในรายการนี้ได้ถึง 2 สมัย ในปีอื่น ๆ เค้าก็เข้าแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
ในศึก K1 แต่หลาย ๆ ครั้ง เค้ากลับแพ้คะแนนแบบค้านสายตาคนดู จึงไม่สามารถไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้อีก เอาน่ายังไง บัวขาว บัญชาเมฆ ก็เป็นตำนานไปแล้วสำหรับ K1
BKFC Thailand 3 ต่อสู้ด้วยมือเปล่า
วันเสาร์ที่ 3 กันยายนนี้ บัวขาว บัญชาเมฆ จะขึ้นชกแบบมือเปล่าในรายการ BKFC Thailand 3 บนเวที Squared Circle กับ เออร์แกน วาโรล
นักคิกบ็อกซิ่งชาวตุรกี ที่เวทีมวยราชดำเนิน ทางด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแผนกกระดูกและข้อ ดร. นพ. จตุพล คงถาวรสุกล ได้บอกว่า ไม่ต้องห่วง
ในเรื่องของความปลอดภัย เพราะการต่อสู้ด้วยมือเปล่านั้นแม้จะดูน่ากลัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว การต่อสู้แบบนี้ถือว่ายังปลอดภัยกว่ารอีกหลาย ๆ รูปแบบ
จริง ๆ แล้ว การชกมวยแบบมือเปล่า ทำให้เกิดแผลแตก เกิดบาดแผล คนทั่วไปเมื่อเห็นว่ามีเลือดจึงรู้สึกว่ารุนแรงกว่า แต่การชกแบบใส่นวมนั้น
แรงกระแทกตอนชกของการใส่นวมชก สามารถออกแรงได้เต็ม 100 % ทุกครั้ง เมื่อหมัดถูกกระแทกโดนที่หัวของคู่ชก มีสิทธิ์ที่จะทำให้เกิดการหมดสติ
แบบเฉียบพลับได้ เซลล์บวม เซลล์ตาย ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ในอนาคต และมีผลการวิจัยพบว่า การใส่นวมในการชกมวยนั้น มีโอกาสทำให้
คู่ต่อสู้เกิดการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นกระดูกแตก กระดูกหัก หัวเกิดการกระทบกระเทือนได้มากกว่าการต่อยด้วยมือเปล่า 3 – 5 เท่าโดยทีเดียว
ซึ่งการชกในครั้งนี้ ใช้กฎกติการะดับสากล จึงเชื่อว่าจะช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักกีฬาที่เข้าแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น
ในการแข่งครั้งนี้ มีนักสู้ทั้งหมด 24 ชีวิต เราจะได้ดูกันอย่างเต็มอิ่มถึง 12 คู่เลยทีเดียว ถือเป็นการแข่งขันครั้งแรกที่ บัวขาว เมฆบัญชา แข่งแบบใช้แต่กำปั้นล้วน ๆ
โดยปกติแล้ว เค้าจะชกมวยไทย หมัด เข่า เท้า ศอก มาครบ ใครที่อยากดู รายการนี้ไม่มีการถ่ายทอดสดผ่านทาง Tv นะ แต่ใครที่อยากจะดู
อยากเชียร์ อยากลุ้น และให้กำลังใจบัวขาว สามารถดูผ่าน แอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า BKFC ซึ่งแฟนมวยสามารถดาวน์โหลด ได้ทั้งระบบ iOS และ Android