zBD ที่ไม่ใช่ ZOO BIRD DOG ยูทูปเบอร์ผมทรงเดทร็อคผู้น่ารัก
ยูทูปเบอร์ผมทรงเดทร็อคผู้น่ารัก เราจั่วหัวมาแบบนี้แล้ว คุณคิดถึงใครบ้างล่ะ บอกใบ้อีกนิด เป็นผู้ชาย สไตล์จ้ำม่ำ น่าหยิกมากมาย เค้าคือ “เพียว” zBD นั่นเอง
Fc เลยแหละ ตั้งแต่เพียวทำผมทรงนี้ บอกเลยว่ามันเข้ากับบุคลิกของเค้ามาก น่าเอ็นดู ป้าชอบ ทรงเดียวกับเจสัน โมโมอา หนังเรื่องอควาแมนเลย
เจ้าของช่อง zBD คือใคร
วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าของช่องนี้กัน “เพียว” หรือนายอมรเทพ นันทะสิงห์ คงอาจจะคุ้นหน้า คุ้นตากันแล้ว อย่างเราเองนี่ Fc เลย
ไม่ว่าจะเป็นทางยูทูป หรือจะเป็นทาง Facebook หรือแม้แต่จะใน Tiktok ก็ตามที กดติดตามไว้เรียบร้อย เพียวเป็นหนุ่มผิวแทน น่ารัก จ้ำม่ำ
ที่มาพร้อมกับผมทรงเดทร็อค ที่มักโดนล้อชื่อช่องว่า ZOO BIRD GOD นั่นเอง เพียวเกิดวันที่ 8 สิงหาคม ปัจจุบันนี้ เค้าอายุ 29 ขวบแล้ว โสดหรือเปล่าอันนี้เราไม่แน่ใจ
เพียวบอกว่า ตัวเค้าเองเป็นคนอารมณ์ดี สนุกสนาน เฮฮา เรียกได้ว่าเฟรนลี่มากถึงมากที่สุดในโลก ถ้าเวลาเพียวไม่ยิ้ม อาจจะดูเหมือนทรงโจร
แต่บอกเลยว่าเค้าโกรธคนยาก โกรธคนไม่เป็น และอ่อนโยน (ดั่งจุดซ่อนเร้นเลยทีเดียว / อันนี้เพียวบอกเราเองเลยนะ) มาดูกันว่าพียวเรียนจบอะไร จากไหน
ตามติดชีวิตเพียว
บอกเลยว่าวันนี้เราจะตามติดชีวิตเพียง zBD กันแบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่รู้ว่ามีใครเคยขอสัมภาษณ์เพียวมาก่อนหน้าเรารึเปล่า แต่เราได้ติดต่อสอบถามเพียวไป
เพียวใจดีมาก ขนาดงานยุ่ง ๆ งานล้นมือ ถ่ายงานนั่นนี่ กับทีมของมายเมคเนททุกวัน ยังอุส่าหาเวลามานั่งเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เราฟังได้อีก น่ารักมากมาย
เอาใจพี่ไปเลย มาดูเกี่ยวกับเรื่องการเรียนของเพียวบ้าง ช่วงประถม 1 นั้นเพียวเรียนที่โรงเรียนวัดด่านสำโรง แต่ด้วยความที่หน้าตาดีไปหน่อย ห้องข้าง ๆ
เลยเขม่นไว้แต่วันแรกที่เข้าเรียนเลย พอขึ้นชั้นป.2 เลยจำใจต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนดรุณรัตน์จนจบชั้น ป.6 หลังจากนั้น ไปเรียนมัธยมต้น
ที่โรงเรียนบางแก้วประชาสวรรค์ จนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งโรงเรียนนี้ คุณเจเปน ตลก 6 ฉากได้เรียนอยู่ด้วย เท่ากับเพียวเป็นรุ่นน้องของดาราซิทคอมชื่อดังเลยนะ
ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ กำลังวัยรุ่น ห้าว ๆ ห่าม ๆ ดิบ ๆ เลยอยากมีประสบการณ์ใหม่ ๆ อยากลองทำอะไรที่ต่างไปจากเดิม ในที่สุดเพียวได้มาเจอเพื่อนคนหนึ่ง
เค้าเลขที่ต่อจากเพียวเลย ขออนุญาตเอ่ยนามนะ เพื่อนคนนี้ชื่อน็อต เค้ามาชวนเพียวไปเต้นบีบอยด้วย สถานที่ซ้อมอยู่ภายในห้องเรียนนั่นแหละ
บางทีก็มันมากไปหน่อย ขาไปเตะตู้กระจกของโรงเรียนแตก บางทีพลาด ขาเจ้ากรรมฟาดเข้ากับเก้าอี้ เวลาผ่านไป ซ้อมจนเข้าที่เข้าทาง เพียวกับเพื่อน ๆ
ได้ฟอร์มทีมขึ้นมาชื่อว่า “Burnning Crew” ไปรวมกลุ่มกันที่สมุทรปราการ ไปซ้อมเต้นกันแถวอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง แต่ด้วยความที่เพียวมีภาระหน้าที่ทางบ้าน
ทำให้ห่างหายไปจากกลุ่ม ไม่ค่อยได้มาซ้อม ไม่ได้มาเต้มรวมทีมกับเพื่อนเท่าที่ควร จนวันหนึ่งเพื่อนของเพียวไปรวมกันใหม่ในทีมที่ชื่อว่า Sacrew
แถมได้เป็นแชมป์บีบอยของประเทศไทยอีกด้วย และได้เป็นตัวแทนของคนไทยไปแข่งเต้นบีบอยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่น่าเสียดาย
ที่ไม่มีใครยื่นมือช่วยในเรื่องของทุนทรัพย์ ทำให้ทีมไม่สามารถไปแข่งขันต่อที่อเมริกาได้ พอจบชั้น ม.3 เพียวมีปัญหาเรื่องผลการเรียน
จึงทำให้ต้องย้ายไปเรียนต่อ ม.4 ที่จังหวัดศรีสะเกษ กับโรงเรียนที่มีชื่อว่า มัธยมบักดองวิทยา และเป็นครั้งแรกในชีวิต เพียวต้องทำหน้าอิหยังวะ
เพราะเพื่อนใหม่พูดภาษาเขมรใส่ เพียวงง “เฮ้ย .. เอ็งพูดอะไรวะ” อย่างที่บอกด้วยความอัธยาศัยดี เพียวเลยมีเพื่อนสนิทอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน
ประกอบกับเจ้าตัวมาจากกรุงเทพ สาว ๆ ต้องมองบ้างแหละ แถมด้วยความสามารถด้านการเต้นบีบอย ที่มีติดตัวมาตั้งแต่สมัย ม. ต้น จุดกำเนิด
การนำวัฒนธรรม Hiphop จึงถือกำเนิดเกิดขึ้นในอำเภอขุนหาญ มาจากนายอมรเทพ นันทะสิงห์ นี่แหละครับท่านผู้ชม ดังนั้นเพียวชวนเพื่อน ๆ มาซ้อมเต้น
ใต้อาคารหลังเลิกเรียนบ้าง พาเพื่อนไปซ้อมเต้นโชว์สเต็ปที่สวนสาธารณของตัวอำเภอบ้าง กลุ่มนี้จึงกลายเป็นของแปลกประจำอำเภอไป
ในขณะที่ชาวบ้านเค้าเล่นบาสเก็ตบอล ตีแบด จะมีผู้ชายอยู่คนหนึ่งที่ยืนเต้นและยกขาขึ้นชีฟ้าด้วยความโคตรเท่ แต่ความเท่มากเกินไปหน่อยนี่แหละ
หมู่มวลวัยรุ่นชายเจ้าถิ่นแถวนั้น พร้อมใจไม่ถูกชะตาใส่ทันที สุดท้ายหนีไม่พ้นต้องมีปาก มีเสียงกันบ้างเล็กน้อย แต่เพียวเองเลือกที่จะไม่เข้าปะทะมาตลอด
ใจเย็นสุด ๆ ดุจน้ำแข็งใสเชียวแหละ วันหนึ่งครูพลศึกษาคนใหม่ได้ย้ายเข้ามา เห็นแววเพียวและเพื่อน ๆ จึงได้เสนอทีมของเพียวไปแข่งกับโรงเรียนอื่น ๆ
ที่ตัวจังหวัด ในทีมของเพียวมีเพื่อนอีก 3 คนได้แก่ ไอซ์ แจ๊ค และเหนียง ปีต่อมา มีเพื่อนใหม่มาจากประเทศเยอรมัน รู้จักกันได้เพราะเค้าเห็นกลุ่มเพียวเต้นอยู่
ซึ่งเพื่อนจากเยอรมันเค้าเป็นสาย C – Walk แลกเปลี่ยนกันไปจนจบชั้น ม.ปลาย หลังจากนั้นเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เพียวเรียนต่อที่
มหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร เทเวศร์ คณะสื่อสารมวลชน สาขาเทคโนโลยีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เพื่อน ๆ เชื่อหรือไม่ว่า เพียวของเรา
เค้าเป็นดาวของคณะเลยนะจ๊ะ แต่เป็นดาวเทียมนะ ด้วยความที่หน้าตาดีไปหน่อย บวกกับความเป็นคนเฮฮา ความสนุกในรุ่นจึงบังเกิดจ้า
กับคำว่า ตำแหน่งไม่จีรัง แต่ตำนานนี่ซิดังปังกว่า มาถึงการก้าวเข้าสู่การเป็น Dj Club เพียวกับเพื่อน ๆ สนใจ เลยศึกษาในเรื่องนี้อยู่พักใหญ่
และได้มีรุ่นน้องที่เคยเต้นบีบอยด้วยกันช่วง ม.ปลาย อยากให้เพียวไปเป็นดีเจในการแข่งขันบีบอย ซึ่งเป็นงานแรกและจัดขึ้นครั้งแรกของอำเภอ
เพียวกำเงินก้อนหนึ่งไปซื้อเครื่องเล่นมาใช้ในการฝึก ด้วยเวลาฝึกอันแสนสั้นได้จบลงเพียง 3 วันเท่านั้น เพียวต้องเดินทางไปเป็น Dj ในงานเลย
ผ่านงานแรกไป งาน 2 งาน 3 และงานอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานแต่ง งานเลี้ยง งานปาร์ตี้ ไปจนถึงการไปออดิชั่นตามผับบาร์
แต่พอวันหนึ่งมีคนแนะนำงานอีเว้นท์ ให้ไปเป็นสต๊าฟในงานวันแม่ เมื่อปี 2555 ที่ห้างแถวบางแค เพียวรู้สึกสนุกและชอบงานแบบนี้มากเลย
ทำให้มารับงานอีเว้นเยอะมากขึ้น งานดีเจนั้นรับเบาลง ทำงานทั้ง 2 อย่างคู่กัน จนจบมหาวิทยาลัยจุดหักเหของการเลิกเป็นดีเจของเพียวคือ
วันหนึ่งมีเพื่อนของแฟนเพื่อนอีกที คนนี้เพียวรู้สึกชอบ และคุยกับเค้ามาซักพักละ เค้าบอกกับเพียวว่า พี่ก็น่ารักดีเน๊อะ เรียนจบมาแล้วมีงานทำเลย
แต่งานที่ทำนี่ มันไม่มั่นคงเท่าไหร่เลย นั่นแหละการทำงานเป็นดีเจวันสุดท้ายของเพียว หันหน้าเข้าสู่การเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานตรงสายที่เรียนจบมา
งานประจำงานแรกที่ทำคือ รายการ Superfast Smart Moving ในตอนนั้นออกอากาศในช่วง 23.30 – 00.00 น. วันศุกร์ทางช่อง 5 ทำอยู่ได้ประมาณ 1 ปี
เริ่มหาสมัครงานใหม่ เพราะอยากพัฒนาตัวเองมากขึ้นไปกว่านี้ เพียวเริ่มหางานทำซึ่งไม่ใช่การสมัครงานทางเว็บหรือหางานตามหนังสือพิมพ์เหมือนคนปกติทั่วไป
เลือกที่จะเปิดยูทูปและพิมพ์คำว่า รับทีมงาน ลงไปในช่องค้นหา อยากทำยูทูป ไม่ชอบงานเป็นแพทเทิร์น อยากเป็นผู้กำกับ เลยมาเจอช่องของเนท
เมื่อเห็นว่ารับสมัครทีมงานอยู่ เพียวไม่รอช้าสมัครไปทันที และทางนั้นเรียกสัมภาษณ์เลยทันที ที่อื่นเค้าสัมภาษณ์แบบไหนไม่รู้ แต่เพียวบอกว่า
เนทถามแค่ว่า สะดวกไหม ถ้าต้องมาทำงานตอนเช้าแล้วกลับบ้านในตอนเย็น เพียงกินเหล้ามั้ย สูบบุหรี่รึเปล่า แพ้ขนหมาหรือขนแมวเปล่า
ซึ่งมันเป็นคำถามที่ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องงานเลย มันใช่เหรอวะ เพียวพูดขึ้นขำ ๆ ผ่านไป 3 วัน เนทโทรมาเรียกให้เข้าไปทำงานทันที
เพราะว่าตอนนั้นมีทีมงานคนหนึ่งกำลังจะออก นั่นคือ รุจ ถ้าใครติดตามช่องเนทมานานแบบเรา ช่วงนั้นรุจมีความฝันอยากออกไปทำช่องเอง
ซึ่งปัจจุบันรุจเค้าก็กำลังเดินทางตามความฝันของเค้าอยู่กับช่อง wake up ruj นั่นเอง เพียวจึงได้เริ่มงานกับ มายเมคเนท ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จุดเริ่มต้นของ zBD!
อย่างที่เล่าไป ตอนที่เพียวทำงานอยู่ในรายการทีวี เพียงรู้สึกอยากทำยูทูป แบบประมาณว่า ไปเที่ยว ไปเดินเล่น ได้ทำงานไปด้วย เอาจริง ๆ
เพียวไม่ชอบทำงานในห้องสี่เหลี่ยม ถ้าให้เลือกได้หลาย ๆ คนก็คงไม่อยากทำและคิดแบบเพียวเหมือนกัน รวมถึงตัวเราเองด้วยแหละ
วันหนึ่งเลยชวนเพื่อนมาทำช่องชื่อว่า TheEm ที่หมายถึงคอร์ดกีต้าร์ คอร์ดนี้ เป็นคอร์ดที่จัดง่าย เล่นได้ง่าย สไตล์ช่องจะเป็นแบบทำแบบง่าย ๆ
ถ่ายง่าย ๆ ตัดง่าย ๆ พูดแล้วฟังง่าย แต่เพียวบอกว่าไม่ได้มักง่ายนะจ๊ะ ช่องนี้ทำไปได้อยู่ 3 ep ต้องเลิกลากันไป เพราะเพื่อนที่ร่วมทีมด้วย
ไปได้งานประจำ ไปเป็นทีมงานของน้องฉัตร หลังจากนั้นเพียวลุยเดี่ยวมาตลอด จนวันหนึ่งโค้ชนายได้เข้ามาในทีมเพื่อเป็นเทรนเนอร์มวยให้กับเนท
ตอนที่เนทจะขึ้นชก IDOL FIGHT THAILAND ซี่ซั่นแรก My Mate Nate vs Kyutae Oppa ด้วยความที่อายุห่างกันไม่มาก แค่ 3 ปี
และด้วยความสไตล์ลูกทุ่ง ๆ เด็กบ้านนอกเหมือนกัน จึงทำให้เพียวกับโค้ชนายคุยกันได้ง่าย มีความคิดว่าจะทำช่องด้วยกัน ชื่อช่องว่า
นายฮาเดียว กับ เพียวเห็บหมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากต่างคนต่างงานยุ่ง จนไม่มีเวลาถ่าย จนวันหนึ่งมาถึงกาลอวสานของช่อง TheEm
เพราะเพื่อนไม่มาถ่ายด้วยเลย ตอนนั้นเพียวเลยขอเพื่อนเปลี่ยนชื่อช่อง กลายมาเป็นเพียวรี่พาย ใช้ชื่อนี้อยู่ 3 ปี คนมาแซวเยอะ นายเป็นอะไรกับพิมรี่พายเหรอ
โดนถามหนัก ๆ เข้า เลยไปปรึกษากับเนท ว่าอยากเปลี่ยนชื่อช่อง เนทบอกว่า ควรจะเป็นชื่อติดหู ติดปาก แค่ 3 พยางค์พอ สั้น กระชับ คนจำได้ง่าย
เพียวเลยนึกถึง AKA ที่ใช้มาตลอดคือ zOmBie_Diesel_ แล้วชอบใช้ตัวย่อคือ zBD! จึงตกลงใช้ชื่อนี้ซะเลย แต่จะเปลี่ยนชื่อช่องยูทูปทั้งที
จะเปลี่ยนแบบเงียบ ๆ ก็ไม่ได้หรอกนะ มันไม่เท่ โค้ชนายเลยจัดคอนเท้น การเปลี่ยนชื่อช่องให้ซะเลย คลิปนั้นฮาสุด ๆ ขนาด M จาก The Fat Man
ยังเปลี่ยนมาเป็น Mister M ไปกับคอนเท้นนี้ด้วย พอมาเป็น zBD คนยังแซว ยังมาล้ออีกว่า เป็นอะไรกับ Spd รึเปล่า แหม่ชื่อมันคล้ายกันเฉย ๆ เองครับ
สิ่งที่เพียวประทับใจกับทีมนี้และงานที่ทำ
เพียวเล่าว่า เป็นงานที่โคตรสนุกที่สุดในโลกและถูกจริตของตัวเป็นอย่างมาก ตอบโจทย์งานที่ใฝ่ฝันอย่างแท้ทรู แบบที่สุดแล้วเลย
การทำงานในช่องมายเมทเนทเป็นอะไรที่ท้าทายมาก การทำงานแบบเรียล ๆ ไม่มีสคริปท์ใด ๆ ตีกรอบกว้าง ๆ เอาไว้ว่า
คลิปนี้จะถ่ายมาประมาณนี้ (แค่นั้น) ทุกคนเลยดูสนุกสนาน เพราะมันคือความเป็นตัวเอง บางทีแสดงได้ถึงบทบาทจนมีคนหมั่นไส้
เวลาไปเดินตลาด ประหนึ่งแม่ค้ายืนชี้หน้าด่านางร้าย แบบละครไทยเลย สำหรับทีมงานทุกคนคือ พี่น้องกัน อยู่แบบพี่น้องจริง ๆ
ช่วยเหลือกันตลอดทุกเวลา ทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็น รถโซ่ขาด นู่น นั่น นี่ และยืมเงิน เพียวบอกแบบขำ ๆ เพียวฝากบอกว่า
สำหรับใครที่หมดไฟในเรื่องการงาน หรือเรื่องใด ๆ ก็ตาม ควรหาแรงกระตุ้นตัวเองซักอย่างนึงในเวลาที่หมดไฟ แล้วกล้าที่จะลงมือทำมัน
ทำไปเถอะถ้าไม่เดือดร้อนคนอื่น ไม่ต้องสนใจ ไม่ลองไม่รู้ ถือซะว่าเป็นไดอารี่ชีวิตละกัน “ถ้ามันจะต้องเสียใจก็ให้มันมาจากสิ่งที่เราเลือกเอง”
ใครที่ยังไม่ได้ติดตามเพียว zBD ตามกันไปได้เลย
Youtube : zBD!
IG : zbd_5182116
TikTok : @zbd99
Discord : https://discord.gg/u8zghWnTbs