งานอีเว้นท์

วันคริสต์มาส 25 ธันวาคมของทุกปี กับเรื่องน่ารู้ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน

วันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็น วันคริสต์มาส ถ้าเราพูดถึงวันนี้แล้ว หลาย ๆ คนอาจจะคิดถึง คุณลงอ้วน ๆ พุงโต ๆ ที่เรา ๆ เรียกเค้าว่า ซานตาคลอส

ที่จะมาพร้อมถุงใส่ของขวัญสีแดงกับเสียงหัวเราะ โฮะ โฮะ โฮะ รถกวางเรนเดียร์ ที่จะมาพร้อมกับเพลง Jingle Bells คนไทยรับเอาแต่วัฒนธรรมที่สนุกสนาน

อย่างเช่นการให้ของขวัญซึ่งกันและกัน งานฉลอง ถ้ามองอีกด้านถือเป็นเทศกาลที่ดี เพราะชาวต่างชาติแวะมาเที่ยวที่เมืองไทย เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว

ของพวกเขา  ซึ่งในสมัย 7 ปีก่อน กับช่วงที่ไม่มีโควิด เศรษฐกิจในประเทศไทยสะพรัดมากและหมุนเวียนดีจริง แต่จริง ๆ แล้ว วันคริสต์มาสนี้

มีความหมายอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ที่เราไม่เคยรู้เลย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับทางศาสนาคริสต์ เพื่อน ๆ มารู้ไปพร้อม ๆ กันกับเราเลย

Merry Xmas! วันคริสต์มาส

ประวัติ วันคริสต์มาส

จริง ๆ แล้วการจัดงานในวัน Christmas จะเป็นการเฉลิมฉลองให้กับพระเยซูในวันประสูติ แต่ในคัมภีร์ไบเบิ้ลนั้นไม่ได้มีการบันทึกไว้ว่าเป็นวันอะไร

ต่อมาองค์จักรพรรดิออเรเลียน พระองค์ทรงกำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลองเหล่าสุริยเทพของชาวโรมัน แต่ด้วยความที่ว่าชาวคริสต์ถือว่าพระเยซูนั้น

เป็นผู้อยู่เหนือความตาย และเป็นศาสดาสูงสุด จึงจัดให้มีการฉลองวันประสูติของพระเยซูในวันนั้น และมีการบันทึกไว้ว่า การจัดงานวันคริสต์มาสขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 336

merry christmas

ความหมายของคำว่า คริสต์มาส

Christmas แปลว่า บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า เป็นวันที่คริสต์ศาสนิกชนนิยมมาทำพิธีมิสซา Christmas เป็นวันเฉลิมฉลองให้กับพระศาสดาสูงสุดของศาสนาคริสต์ ซึ่งคือวันประสูติของพระเยซูนั่นเอง เป็นวันที่ชาวคริสต์ให้ความสำคัญมากและถือเป็นวันหยุดประจำปี

ความสำคัญของ วันคริสต์มาส

แก้นแท้ของวันนี้อยู่ที่ ความรักของพระเจ้า ที่พระองค์ทรงมีต่อโลกมนุษย์ พระเจ้าถึงกับยอมส่งบุตรพระองค์เดียวของพระองค์ให้มาเกิดเป็นมนุษย์

ที่มีนามว่า “เยซู” เพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากการตกเป็นทาสของความชั่วและกลัวต่อการทำบาป ความสำคัญของวันนี้อยู่่ที่การฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อโลกมนุษย์

Christmas Merry Christmas

กิจกรรมในเทศกาล วันคริสต์มาส

ถ้าพูดถึงในบ้านเรา ส่วนใหญ่จะมีการจัดงาน จัดบรรยากาศในช่วงคริสต์มาสในห้างสรรพสินค้าซะเป็นส่วนใหญ่ หรือภายในสถานศึกษาที่เป็นของศาสนาคริสต์

จะประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ บางต้นสูงเท่าตึก 5 ชั้นทีเดียว ถือว่าสร้างสีสันให้กับสถานที่นั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี

ตามธรรมเนียมของชาวคริสต์นั้น จะเริ่มต้นเทศกาลวันคริสต์มาส ในช่วงเย็นของ วันคริสต์มาสอีฟ โดยเด็ก จะเตรียมนำถุงเท้ามาแขวนไว้ที่หน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญ

ชาวยุโรป ส่วนใหญ่จะตกแต่งภายในบริเวณ ภายในห้องรับแขกด้วยต้นคริสต์มาสขนาดย่อม ๆ มีกล่องของขวัญ มีดวงไฟประดับประดาบนต้น และมีดวงดาวอยู่บนยอดของต้นคริสต์มาส

บางบ้านอาจจะไปบริจาคอาหารให้กับคนไร้บ้านอีกด้วย พอตกตอนเย็นทุกคนในครอบครัวจะมาร่วมฉลองกันในมื้ออาหารค่ำ ถือว่าเป็นอาหารมื้อพิเศษ ซึ่งในเมนูบนโต๊ะอาหาร

จะขาดไม่ได้เลยคือ “ไก่งวง” กับเครื่องดื่มต่าง ๆ มีการให้ของขวัญ ส่งการ์ดอวยพรให้กัน ในส่วนของเด็ก ๆ จะนำถุงเข้ามาแขวนไว้ที่หน้าเตาผิง เพื่อรอของขวัญจาก ซานตาคลอส นั่นเอง

Wishing you a Christmas, filled with fun and party.

ประวัติของซานตาคลอส ชายแก่ที่เด็ก ๆ รอคอย

พอได้ยินเพลง Jingle Bells เราจะนึกถึงคุณลุงซานตาคลอส หรือคุณลุงซานต้า คุณลุงอ้วน ๆ หนวดเคราสีขาว สวมชุดสีแดง ที่มาพร้อมกับลากเลื่อนและกวางเรนเดียร์ 9 ตัว

นั่นคือ Dasher, Dancer, Prancer, Vixen, Comet, Cupid, Donder, Blitzen และ Rudolph (รูดอล์ฟ) เจ้ารูดอล์ฟ กวางจมูกแดงนี่แหละเป็นกวางคู่ใจของคุณลุงซานต้าเลยนะ

ตามเรื่องเล่า ช่วยที่นักบุญนิโคลัสยังมีชีวิตอยู่ นักบุญคนนี้จะปีนลงไปในปล่องไฟ เพื่อนำเหรียญเงินไปมอบเป็นของขวัญให้กับบ้านของเด็กหญิงที่ยากจน แต่ระหว่างที่ปีนลงไปนั้น

เหรียญดันตกไปในถุงเท้าที่แขวนไว้หน้าเตาผิง นี่คือจุดเริ่มต้นให้เด็ก ๆ ต่างพากันเอาถุงเท้ามาแขวนไว้หน้าเตาผิง เพื่อรอรับของขวัญจากซานตาคลอส นี่คือตำนานของคุณลุงซานต้านั่นเอง

ซานตาคอส วันคริสต์มาส 25 ธันวาคมของทุกปี

ต้นคริสต์มาส

แน่นอนของที่ขาดไม่ได้เลยใน วันคริสต์มาส คือ ต้นคริสต์มาสนั่นเอง รู้หรือไม่ว่าต้นคริสต์มาสทำมาจากต้นสน เนื่องจากในทวีปยุโรปและอเมริกามีต้นสนอยู่จำนวนมากมายทีเดียว

เมื่อได้ต้นสนขนาดพอเหมาะจึงทำการตัดและนำกลับบ้านเพื่อไปตกแต่งประดับประดาด้วยตุ๊กตา กล่องของขวัญ ถุงเท้า และติดไฟกระพริบวิววับ แต่ตามความเชื่อในสมัยโบราณ

ต้นคริสต์มาสคือต้นไม้ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ ที่ว่ากันว่าอดัมกับเอวาหยิบผลมากินกันไป

 

Have a wonderful Christmas!

การร้องเพลงในวัด

เพลง Silent Night, Holy Night ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า ราตรีสวัสดิ์ คืนอันศักดิสิทธ์ เป็นเพลงที่ถูกนำมาร้องมากที่สุดในปัจจุบัน บทเพลงพวกนี้ถูกแต่งไว้เมื่อ

ศตวรรษที่ 19 เป็นบทเพลงจากประเทศอังกฤษ ความเป็นมาของเพลงนี้คือ คุณพ่อ Joseph Mohr ทราบว่าเจ้าตัวออร์แกนในวัดเสีย ทำให้วงไม่สามารถร้องเพลง

ที่ได้ซ้อมมาแล้วได้ คุณพ่อซึ่งตั้งใจแต่งเพลงคริสต์มาสขึ้น เมื่อแต่งเสร็จแล้วจึงนำไปใส่ทำนอง ตรงกับวันที่ 24 ธันวาคมนั่นเอง ซึ่งใช้กีต้าร์ประกอบการขับร้อง

ร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์

ที่นี่เราได้รู้ประวัติอะไรอีกเยอะแยะเลยที่เกี่ยวกับ วันคริสต์มาส แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ เตรียมตัวไปฉลอง Christmas กันที่ไหน สำหรับตัวเรา ไม่ได้ไปไหนหรอก

เพราะติดยังต้องทำงาน ฝากเพื่อน ๆ ฉลองเพื่อเราด้วยแล้วกันนะ แวะไปกดติดตามเราได้ที่ เพจท่องเที่ยว ของเรา วันนี้ขอตัวไปก่อน อย่าลืมกินไก่งวงเพื่อด้วยนะ