วันซูชิสากล
วันซูชิสากล หรือ International Sushi Day ถือกำเนิดเกิดขึ้นในเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2009 ถือเป็นเมนูโปรดของใครหลายคนเลย
ในปัจจุบันซูชิในปัจจุบันคือเมนูอาหารที่ติด 1 ใน 5 ของโลก อีกทั้งยังได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอย่างดีอีกด้วย เราจะเห็นได้จากร้านซูชิที่เปิดในประเทศของเรา เยอะมาก
วันซูชิสากล ประวัติศาสตร์ของซูชิ
ซูชินั้น เริ่มจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเอาปลามาหมักกับข้าว ถือเป็นการถนอมอาหารที่ดีเลย ถึงจะผ่านไป 3 เดือน หรือผ่านไป 3 ปีแล้ว
ปลาเหล่านั้นยังอยู่ในสภาพดี และสามารถกินได้ แต่เวลากินนั้นจะกินแต่ปลา ส่วนข้าวที่หมักไปพร้อมปลานั้น จะนำไปทิ้ง ดูแล้วคล้าย ๆ ปลาส้ม บ้านเราเหมือนกัน
มีอาจารย์มหาวิทยาลัยดังท่านหนึ่งได้กล่าวไว้อย่างขำ ๆ กับนักศึกษาที่ไปเรียนไกด์ว่า พวกคุณรู้ไหมว่า คนไทยสมัยก่อนกินข้าวด้วยมือ
ซึ่งในสมัยพระนารายณ์มหาราชนั้น มีวัฒนธรรมที่เปิดกว้างมาก ต่างชาติเข้ามาอาศัยและดำเนินธุรกิจในกรุงศรีอยุธยามากมาย
หนึ่งในนั้นคือ คนจากประเทศญี่ปุ่น พวกเขามาเห็นการเปิบข้าวด้วยมือเปล่าของคนไทย จึงนำการปั้นข้าวกินด้วยมือ ไปเป็นเทคนิคการทำซูชินั่นเอง
อีกทั้งยังมีรายการหนึ่ง ได้พาไปชมพิพิธภัณฑ์ซูชิที่ประเทศญี่ปุ่น เขาเล่าว่า ประวัติศาสตร์ของซูชินั้น มาจากประเทศไทย
ประเภทของซูชิ
ต้นกำเนิดของซูชิในปัจจุบัน มาจาก นามะนาเระซูชิ เนื่องจากเป็นอาหารที่ใช้ปลาดิบและข้าว ถ้าคิดไม่ออก ให้นึกถึงรสชาติปลาส้ม
ต่อมาจึงค่อย ๆ พัฒนาเป็นการใช้น้ำส้มสายชู จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่มีคนชื่นชอบติด Top 10
โดยเราจะแบ่งซูชิออกเป็น 5 ประเภท โดยแบ่งจากวิธีการทำ, รูปร่าง และขนาด นั่นเอง
- Nigiri Sushi ถือเป็นยอดนิยมของซูชิ ที่ใคร ๆ ต่างสั่งทาน ข้าวปั้นรูปวงรี มีปลาดิบ, เนื้อสัตว์, ผัก หรืออาหารทะเล โปะอยู่ด้านบนข้าวปั้น บางร้านอาจจะใส่วาซาบิเล็กน้อย
- Maki Sushi เป็นซูชิโรล ที่ถูกห่อหุ้มด้วยสาหร่ายแผ่นใหญ่ ๆ ข้างในจะประกอบไปด้วย ข้าว, ผัก, ปลา หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ, ไข่ แล้วม้วนเข้าหากัน ตัดแบ่งพอดีคำ ทานง่าย
- Futo Sushi วิธีทำคล้ากับ Maki Sushi แต่จะใหญ่กว่า เพราะข้างในมีไส้ที่หลากหลาย ใส่รวม ๆ กันลงไป ไม่ว่าจะเป็น ไข่หวาน, แตงกวา, ปลาดิบ, ผักต่าง ๆ , อโวคาโด เป็นต้น
- Gunkan Sushi ซูชิที่รูปร่างคล้ายเรือรบ ห่อด้วยสาหร่าย มีของทะเล หรือของสด อย่างเช่น ไข่หอยเม่น, ไข่ปลา, ไข่กุ้ง มีวาซาบิแต้มนิดหน่อยอยู่ด้านใน
- California Maki หรือ Temaki เป็นซูชิทรงกรวย ที่มีผัก, ปลาดิบ ห่อด้วยข้าวและสาหร่าย ทานด้วยมือสบาย ไม่เลอะเทอะ
หน้าซูชิต้นตำหรับจากญี่ปุ่น
- ซูชิหน้าแซลมอน ในประเทศไทยมีหลายร้านที่เปิดให้บริการส่วนใหญ่เป็นแซลมอนจากนอร์เวย์ รัสเซีย หรือชิลี แต่ควรระวัง ปลาเทราต์หรือปลามาสุ เพราะสีของเนื้อปลาทั้ง 2 ชนิดนี้มีความคล้ายกัน
- ซูชิหน้ามากุโร่ หรือปลาทูน่า ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพของปลา เนกิโทโร่ นำเนื้อทูน่าส่วนติดกระดูกที่ไม่สวยมาปั่นบด แล้วปรุงรส ราคาจะไม่แพง ชูโทโร่ และ โอโทโร่ จะเป็นส่วนของปลาทูน่าเกรดดีขึ้นมาอีกระดับ
- ซูชิหน้าอุนางิ ทำจากปลาไหลน้ำจืด นำมาย่างให้สุกก่อนที่จะไปอยู่บนข้าว
- ซูชิหน้าอามะเอบิ หรือ ซูชิหน้ากุ้งหวานนั่นเอง ในประเทศญี่ปุ่นจะทานกุ้งกันแบบสด ๆ แต่ในประเทศไทยจะเป็นกุ้งต้มปรุงรสแล้ว ให้ความสัมผัสคนละแบบ
- ซูชิหน้าอุนิ หรือ ไข่หอยเม่น แต่ความจริงแล้วมันคือ รังไข่ หรือ อัณฑะ ของหอยเม่นต่างหาก หลายคนมักบอกว่าหอยเม่นตัวผู้จะอร่อยกว่าตัวเมีย
- ซูชิหน้าโทบิโกะ โทบิโกะนั้นคือ ไข่ของปลาบิน หรือ ปลานกกระจอก แต่คนไทยมักเรียกว่าไข่กุ้ง สีสันสวยงามที่เห็นนั้น มาจากการย้อมสี มีรสสัมผัสกรุบๆ
- ซูชิหน้าปลาซาบะ เป็นการวัดความสามารถในการเลือกของร้านค้าเลยทีเดียว เพราะปลาซาบะสด ๆ จับมาใหม่ ๆ นั้นจะมีเนื้อหวาน อร่อย ไม่คาว ถ้าเป็นซาบะที่ไม่สด จะมีกลิ่นคาวที่รุนแรงมาก
- ซูชิหน้าโฮตาเตะ หรือ หน้าหอยเชลล์ ทานได้ทั้งแบบดิบและแบบสุก โฮตาเตะของญี่ปุ่นนั้น มีขนาดใหญ่กว่าหอยเชลล์ของไทย
- ซูชิหน้าคานิมิโซะ หรือ หน้ามันปู ญี่ปุ่นนั้นจะใช้มันปูซุไว หรือ ปูหิมะ ซึ่งร้านที่ทำมันปูเองจะมีน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นมันปูสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ
- ซูชิหน้าสึบุไก หรือ หน้าหอยสังข์ญี่ปุ่น อร่อยไม่แพ้โฮตาเตะเลยทีเดียว เนื้อสัมผัสดี รสหวาน ไม่มีกลิ่นคาว
ซูชิในไทยนั้น หน้าตาเปลี่ยนไปจากของดั้งเดิม มีความครีเอทในเรื่องรสชาติ อย่างเช่น หน้ายำสาหร่ายญี่ปุ่น, หน้ายำแมงกระพรุนปรุงรส, หน้ายำหมึกสายปรุงรสวาซาบิ
ทุกคนได้ทำความรู้จัก วันซูชิสากล พร้อมประวัติของซูชิกันไปบ้างแล้ว เพื่อน ๆ หลายคนคงอยากไปลิ้มลองซูชิกันบ้างแล้วซินะ