วันเด็ก ทำไมต้องเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมด้วย สงสัยกันไหม

16 ธันวาคม 2021 แม่หมีอุมา

ขึ้นชื่อว่า “วันเด็ก” หลาย ๆ คนคงนึกถึง คำขวัญ ที่มาจากนายกรัฐมนตรีในทุก ๆ ปีเลยใช่ป่าว หรือไม่บางคนอาจจะคิดถึงการพาเด็ก ๆ ไปดู รถถัง เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์

เรือรบ ยกเว้นเรือดำน้ำนะ เข้าไปดูไม่ได้จ้า รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางหน่วยงานต่าง ๆ จัดไว้ให้กับเด็ก ๆ อย่างคึกคัก บางคนได้นั่งเก้าอี้ของท่านนายกรัฐมนตรีใน

ธรรมเนียบรัฐบาลอีกด้วย สำหรับตัวแม่หมีเอง ไม่มีช่วงเวลาที่พูดนั่นเลยในตอนเด็ก ๆ วันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม เด็กหญิงอุมาพรรณ ยังทำการซ้อมว่ายน้ำตอนเช้า

กับโค้ชวนไป เราไม่เคยเสียใจหรอกนะ เราเฉย ๆ แม่เคยพาเราไป แต่เราไม่ชอบที่ ที่คนเยอะ ๆ หรือต้องไปยืนรอคิว เราชวนแม่กลับบ้าน สันโดดและรักสงบแต่เด็กเลยฉัน

ทำไมต้องมี “วันเด็ก“

สงสัยเหมือนกัน ทำไมต้องมีการจัดงานเพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีกิจกรรม พึ่งมาสงสัยตอนแก่นี่แหละ ตอนเด็ก ๆ เฉย ๆ รู้แค่ว่า วันศุกร์ก่อน วันเด็ก แห่งชาติ ต้องท่องคำขวัญก่อน

เดี๋ยวไปโรงเรียนมีกิจกรรม คุณครูมักพุ่งเป้ามาถามที่อิฉัน รีบท่องก่อน แต่ดีนะเพื่อนสนิทกระซิบบอกคำตอบทุกปี ตอบได้ทุกปี เพราะเพื่อนช่วย ได้ของขวัญด้วยนะ แต่ให้เพื่อนไป

แรกเริ่มเดิมทีเลยปี พ.ศ. 2498 การจัดงานตรงกับวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็ก ฯ เป็นคนริเริ่ม เพื่อปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม

เราว่า สมัยก่อนเค้าอยากให้เด็กมีบทบาทในสังคม อยากให้เด็กกล้าแสดงความคิดเห็น ในสิ่งที่ตัวเองอยากสื่อสารบอกผู้ใหญ่ ทีเดี๋ยวนี้เด็กมาแสดงความคิดเห็น ผู้ใหญ่ดันบอกว่า

มันไม่ใช่ มันผิดหลักจากเดิม มันเป็นเรื่องที่เราต้องทำเพื่อสืบต่อกันรุ่นสู่รุ่น สิ่งที่เด็ก ๆ เค้าอยากปฏิรูปมันอาจจะดีกว่าเดิม หรือดีกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ลองให้พวกเค้าลงมือทำรึยัง

บางทีเราที่แก่ ๆ แล้วมองหลาย ๆ เรื่องที่เด็ก ๆ คิดว่า มันดีออก ทำไมต้องไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของเด็กด้วย ให้เค้าลงมือทำ โดยมีผู้ใหญ่ดูแลไม่ดีกว่าเหรอ

ประวัติ วันเด็ก แห่งชาติ

ได้ถูกจัดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี 2498 ตรงกับวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม โดยผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ

นายวี.เอ็ม. กุลกานี เป็นคนแนะนำ เพื่อส่งเสริมเด็กให้มีส่วนร่วมในสังคม เพื่อเป็นกำลังของประเทศชาติ ประมาณนั้นแหละ รัฐบาลจึงได้จัดให้มีคณะกรรมการ

ในการจัดงานขึ้น 1 ชุด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาล เอกชน รัฐวิสาหกิจ โดยให้มีกิจกรรมฉลองกันใหญ่โตทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเลยนะ

ทำไม “วันเด็ก” ต้องตรงกับเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม

จุดประสงค์หลัก เพื่อให้เด็ก ๆ ในประเทศไทยให้ความสำคัญกับตัวเอง โดยคำนึงถึงสิทธิหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ต้องกระต่อสังคม โดยให้ยึดมั่นในสถาบันหลักอย่าง

ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ทั้งนั้น กิจกรรมนี้ถูกจัดต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ และในปี พ.ศ. 2506 – 2507 ไม่สามารถจัดงานได้ทัน และให้

เลื่อนออกไปก่อน ทีนี้กรรมการทั้งคณะเลยมาคุยกัน และให้เปลี่ยนวัน เนื่องจากเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว มีฝนตกชุก ทำให้เด็ก ๆ

เดินทางมาร่วมงานไม่ได้ อีกทั้งวันจันทร์ พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องทำมาหากิน ไม่สะดวกอีกเช่นกัน คณะรัฐมนตรีจึงเสนอให้เปลี่ยนการจัดงานจากวันจันทร์แรกในเดือนตุลาคม

มาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมแทน โดยเริ่มแรกในปี พ.ศ. 2509 นั่นเอง และถูกจัดต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน และนี่คือประวัติย่อ ๆ ที่เราเอามาเล่าให้ฟัง

หายสงสัยกันเลยทีเดียว นี่แหละเค้าเรียกว่า ให้ยึดฤกษ์สะดวกจะดีที่สุด อยากให้เด็ก ๆ มางาน อยากให้ผู้ปกครองพาเด็กมา วันเสาร์ที่ไม่ใช่ฤดูฝนนี่แหละ เหมาะสม

คำขวัญ วันเด็ก

คำขวัญ มีขึ้นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2499 โดยนายกรัฐมนตรีจอมพลแปลก พิบูลสงคราม คำขวัญมีว่า “จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม”

ตั้งแต่เด็ก ๆ เราจะได้ยินแม่พูดว่า “เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ” ซึ่งเป็นคำขวัญที่ติดมากในหมู่ผู้ใหญ่สมัยโน้นกันเลยทีเดียว เป็นคำขวัญที่มาจาก

ท่านจอมพลถนอม กิตติขจร ในสมัยที่ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านเป็นนายกถึง 9 ปีติดต่อกันเลยทีเดียว ส่วนคำขวัญในช่วงปี พ.ศ. 2502 – 2506

ออกจะแปลก ๆ หน่อย แต่เข้ากับสถานการณ์ตอนนั้น เพราะขึ้นต้นด้วย “ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ ………” ส่วนในปี พ.ศ. 2529 – 2531

เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้คำขวัญเดียวกันตลอด 3 ปี คือ “นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม” โดยท่านพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นั่นเอง ต่อมา

ในปี พ.ศ. 2532 – 2533 สมัยท่านพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้มีคำขวัญ วันเด็ก “รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม”

อันนี้เราจำได้แม่นเลย เพราะเราเข้าโรงเรียนแล้ว และใช้ติดกัน 2 ปีด้วย สำหรับตัวเราเอง ถ้าถามว่าตั้งแต่เล็กจนแก่นี่ ชอบคำขวัญไหนมากที่สุด ส่วนตัวนะ เราชอบ

คำขวัญที่ว่า “อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด” ซึ่งเป็นคำขวัญที่ได้มาจาก คุณลุงโทนี่ หรือ ท่านพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร สมัยที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีนั่นเอง

เราว่ามันตอบโจทย์ให้กับเด็กรุ่นใหม่มากเลย ส่วนตัวเราเอง เราว่าการอ่าน การพัฒนาความคิด มันทำให้สมองของเราได้รับการพัฒนา อิฉันพึ่งมาขยันอ่านตอนแก่นี่แหละ

แต่มันทำให้โลกของเราเปิดกว้างมากเลย รักการอ่านไปเลย อ่านไปเรื่อย ไม่ว่าจะเป็นข่าว งานวิชาการ งานวิจัย เรื่องเล่า เรื่องผี เรื่องเม้าของดารา อ่านไปเพลิน ๆ ดี

วันเด็ก ต่างประเทศ เหมือนบ้านเรามั้ย

ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อปี 2000 ที่อเมริกาประกาศให้มีการจัดงานขึ้นในเดือนตุลาคม แต่หลังจากนั้นอดีตประธานาธิบดี จอร์จ บุช ให้จัดงานขึ้นในวันอาทิตย์แรกของเดือนมิถุนายน ซึ่งจะคล้าย ๆ งานเทศกาล มีทั้งสวนสนุก ร้านอาหาร หรือกิจกรรมการเล่นเกม การเล่นกีฬา พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย จะพาลูก ๆ หลาน ๆ เด็ก ๆ ไปรวมงานสนุกสนานกันมากมาย

ประเทศตุรกี

จะจัดงานในวันที่ 27 เมษายนของทุกปี มีทั้งขบวนพาเหรด และกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับเด็ก ๆ โดยจะจัดในสนามกีฬาทั่วประเทศ และมีกิจรรมการเชิญเด็กจากทั่วโลกมาพักอาศัยกับครอบครัวแม่พ่อชาวตุรกีเกือบ ๆ 1 สัปดาห์เลยนะ อันนี้ถือว่าใครได้ไปนี่ดีงามมากเลย ได้ไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ได้ไปดูงาน งานกิจกรรมที่ตุรกีด้วย

ประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเด็กมาก โดยจะแบ่งงานออกเป็นปีละ 2 ครั้ง โดยจะแบ่งออกเป็น วันสำหรับเด็กผู้หญิง ซึ่งจะจัดในวันที่ 3 มีนาคมของทุกปี เรียกว่า เทศกาลฮินะ(Hina Matsuri) หรือฮินะ มัตสุริ หรือเทศกาลตุ๊กตานั่นเอง โดยจะมีการทำโต๊ะบูชาตั้งไว้ในบ้าน และมีการอธิษฐานให้ลูกสาวมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และวันสำหรับเด็กผู้ชายจะจัดในวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี (Boy’s Day) ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โคโดโมะโนะฮิ (Kodomonohi) จะมีการประดับติดธงปลาคาร์ฟไว้ที่บ้านนอกของบ้าน อย่างน้อยต้องมีปลา 3 ตัว หมายถึง พ่อ แม่ และลูก โดยชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าปลาคาร์ฟเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ปรารถนาให้เด็ก ๆ กล้าหาญและไม่แบ่งแยกนั่นเอง

เราชอบเทศกาลวันสำหรับเด็กผู้หญิงและวันสำหรับเด็กผู้ชายของประเทศญี่ปุ่นมากเลย ดูเป็นงานที่คึกคักและสนุกสนานดีจังเลย เห็นจากในรูป ในคลิปตื่นตากับโต๊ะตุ๊กตามาก

ในส่วน วันเด็ก ปี 2565 ของประเทศไทย ทางกระทรวงศึกษาธิการงดจัดงานตามสถานที่ต่าง ๆ แต่เปลี่ยนไปเป็นการจัดในรูปแบบออนไลน์แทน เพื่อยังให้เด็ก ๆ และเยาวชน

ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ได้ แต่จะพยายามให้กิจกรรมการนำเยาวชนดีเด่นเข้าเยี่ยมนายกรัฐมตรีเหมือนเดิม ภายใต้ข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขนั่นเอง

เราว่าช่วงนี้ผู้ปกครองคงยังไม่อยากให้เด็ก ๆ ไปไหนมากหรอก เพราะสถานการณ์โควิดยังไม่ดีขึ้นเสียที แต่สระว่ายน้ำเปิดแล้วนะ ใครสนใจจะเรียนว่ายน้ำ ติดต่อเราได้เลย