วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต้องฉีดกี่ครั้ง ระยะห่างกันกี่วัน ป้องกันโรคได้มากแค่ไหน
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สถานการณ์โควิดภายในประเทศไทย วันที่ 10 ก.ค. 64 ผู้ติดเชื้อเพิ่มมีจำนวน 9326 คน และผู้เสียชีวิต 91 คน
ทุกคนเริ่มตระหนักดีแล้วว่า โรคนี้คงอยู่กับมนุษย์โลกอีกนาน หลาย ๆ คนเริ่มลงทะเบียน เพื่อรับวัคซีนฟรีกับทางหมอพร้อม ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลจัดให้มีการฉีดวัคซีน 2 ยี่ห้อ
นั่นคือ วัคซีนแอสตร้าเซนากา (AstraZeneca) กับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) หลาย ๆ คนได้รับ sms ตอบรับจากหมอพร้อม นัดให้ไปฉีดวัคซีน ณ โรงพยาบาล
หรือ สถานที่ที่ทางรัฐบาลจัดไว้ให้ รวมไปถึงบางคนได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วด้วย แต่หลาย ๆ คน ยังไม่สามารถลงทะเบียนได้เลย คงยังรอคอยอย่างมีความหวัง
คนไหนที่พอมีสตางค์หน่อย เริ่มจองวัคซีนทางเลือกอย่างวัคซีนโมเดอร์นา ผ่านทางโรงพยาลเอกชนหลายแห่งในประเทศไทยแล้ว
ทำไมเราต้องฉีด วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
เป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับตัวเราเอง วัคซีนที่เราฉีดเข้าไปเสมือนเราติดโรคแต่ไม่มีอาการ ร่างกายเราจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา โรคจะควบคุมได้ ทำให้เรากลับมาใชั
ชีวิตได้อย่างปกติสุข ไปทำงานได้ ลูก – หลานไปโรงเรียนได้ ไม่ต้องมานั่งเรียน online เหมือนทุกวันนี้ การฉีดวัคซีนจึงเป็นทางออกที่ช่วยควบคุมการระบาดได้
ประโยชน์ของการฉีด วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
- การฉีดวัคซีนนั้นช่วยให้ร่างกายของเราได้สร้างภูมิคุ้มกัน
- การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงหากเกิดการติดเชื้อ
- ป้องกันไม่ให้เกิดอาการป่วยหนัก
- เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันแบบหมู่
- ช่วยลดโอการของการติดเชื้อให้น้อยลง
วัคซีนผสมสูตร วัคซีนสูตรไหนป้องกันเดลต้าได้ และสามารถใช้ได้แล้วจริงหรือไม่
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต้องฉีดกี่ครั้ง
วัคซีนโควิดซิโนแวค (Sinovac)
ชื่อเป็นทางการว่า “วัคซีนโคโรนาแวค (CoronaVac)” เป็นวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตวัคซีนแบบเชื้อตาย
เป็น วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีดจำนวน 2 ครั้ง ฉีดเข็มที่สองครั้งห่างกัน 2 – 4 สัปดาห์ องค์การอนามัยโลกประกาศว่า
วัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้ออยู่ที่ 51 % และยืนยันป้องกันอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต 100 %
วัคซีนโควิดแอสตราเซเนกา (AstraZeneca)
มีชื่อตามที่บริษัทผู้ผลิตเรียกคือ AZD1222 เป็นวัคซีนที่คิดค้นโดยบริษัทแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University)
โดยนำเชื้อที่ทำให้เป็นหวัดในชิมแปนซี มาดัดแปลงพันธุกรรม ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของมนุษย์สร้างภูมิคุ้มกันขึ้น เป็น วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
ใช้สำหรับผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีดจำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 10 – 12 สัปดาห์ วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพโดยรวม 70.4 % ในการป้องกันโรค และมีประสิทธิภาพ
ป้องกันอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต 100 %
วัคซีนโควิดโมเดอร์นา (Moderna)
เป็นวัคซีน ชนิด mRNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมสังเคราะห์ขึ้นได้ในห้องปฎิบัติการ มีชื่อตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา เป็น วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ควรฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 นั้นเว้นระยะห่างจากเข็มแรกประมาณ 28 – 42 วัน มีประสิทธิภาพในการป้องกันประมาณ 92 %
หลังจากฉีดเข็มแรกไปแล้ว 14 วัน จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันประมาณ 50.8 % หลังจากฉีดเข็มที่ 2 ไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ประมาณ 92.1 %
วัคซีน Moderna มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดได้หลายสายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ที่ค้นพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร สายพันธุ์ที่ค้นพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ และ สายพันธุ์ที่ค้นพบครั้งแรกในบราซิล
วัคซีนโควิดไฟเซอร์ (Pfizer)
มีชื่อทางการว่า BNT162b2 ที่คิดค้นโดยบริษัทไฟเซอร์ร่วมกับบริษัทสัญชาติเยอรมันชื่อไอโบเอ็นเท็ค เป็น วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป
วัคซีนโควิดไฟเซอร์ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 นั้นห่างจากเข็มแรกประมาณ 21 – 28 วัน ผู้ที่มีอาการแพ้วัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก ไม่ควรรับเข็มที่ 2 วัคซีนไฟเซอร์
มีประสิทธิภาพ 100 % ในการป้องกันโควิดในแอฟริกาใต้ สถานที่ซึ่งพบสายพันธุ์ B.1.351 เป็นครั้งแรก และมีการศึกษาต่อว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็ม
มีโอกาสติดเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร น้อยลงถึง 90 %
วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson)
ผลิตโดยบริษัทยาของ Johnson & Johnson (J&J) คนจึงนิยมเรียกกันว่า “วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน” เป็น วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เหมาะสำหรับผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไป
และผู้หญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป ผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี สตรีตั้งครรภ์ และสตรีที่กำลังให้นมบุตรนั้นไม่ควรฉีด เพราะมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันและมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
วัคซีนตัวนี้เป็นชนิดเดียวที่ฉีดเพียง 1 เข็ม สาเหตุที่ฉีดเพียงเข็มเดียว เพราะจากการทดลองในระยะที่ 1 และ 2 พบว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีแล้ว
ในขณะที่การฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไม่ได้เพิ่มระดับภูมิคุ้มกันมากนัก ซึ่งการฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียวช่วยเพิ่มความสะดวกในการให้วัคซีน และลดต้นทุนในการขนส่งและฉีดวัคซีนได้มาก
วัคซีนโควิดโนวาแวกซ์ (Novavax)
หรือ NVX-CoV2373 ซึ่งได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัทโนวาแวกซ์ อิงค์ ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของอเมริกา เป็นวัคซีนที่ใช้ชิ้นส่วนโปรตีนของโคโรน่าไวรัสมาผลิต
สามารถฉีดได้ในผู้มีอายุตั้งแต่ 18 ปี – 84 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นวัคซีนเพียงไม่กี่ชนิด ที่มีความปลอดภัยต่อผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรฉีดวัคซีนโควิดโนวาแวกซ์ 2 เข็ม
โดยเข็มที่ 2 นั้นต้องห่างจากเข็มที่ 1 ประมาณ 3 สัปดาห์ และมีประสิทธิภาพในการต้านโควิดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม ทั้งอาการรุนแรง รุนแรงปานกลาง และรุนแรงมาก ได้มากถึง
96.4 % ต้านโควิดกลายพันธุ์อังกฤษได้ 89.3 % และต้านเชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้ 49 %
วัคซีนโควิดซิโนฟาร์ม (Sinopharm)
หรือ BIBP-CorV เป็นวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทซิโนฟาร์ม ในประเทศจีน สามารถฉีดได้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ให้ฉีดจำนวน 2 เข็ม โดยทิ้งช่วง
ห่างหลังฉีดเข็มที่ 1 ไปแล้ว 3 สัปดาห์ หรือประมาณ 28 วัน (เกือบ 1 เดือน) จึงจะสามารถฉีดเข็มที่ 2 ได้ วัคซีนโควิดซิโนฟาร์มมีประวิทธภาพยับยั้งโควิดสายพันธุ์อังกฤษได้
ส่วนโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ มีความสามารถในการยับยั้งลดลง 60 % เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดิม ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิดซิโนฟาร์ม ครบ 2 โดส มีการทดลองว่า
หลังผ่านไป 14 วัน จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยและเสียชีวิตจากโควิด 19 ได้มากถึง 79 % (ระยะเวลาติดตามผลการทดลอง 112 วัน)
แม้ว่าจะฉีดวัคซีนแล้ว เรายังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันต่อไปอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เรา
กลายเป็นผู้แพร่เชื้อแบบไม่มีอาการ ที่อาจจะเป็นต้นเหตุให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจากเราได้ อย่าพึ่งออกเที่ยวตามที่ต่าง ๆ สามารถแวะไปเที่ยวทิพย์
กับเราได้ที่ เพจ ออกเที่ยว-ก่อนที่จะยืนเยี่ยวไม่ไหว